
กัน คิม ยอง รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีการค้าสิงคโปร์ เปิดเผยว่า สิงคโปร์กำลังหาทางเจรจาต่อรองให้สหรัฐฯ ยอมผ่อนปรนการส่งออกยาของสิงคโปร์ ขณะที่คาดว่าสิงคโปร์อาจจะไม่ได้รับการลดหย่อนภาษีศุลกากรขั้นพื้นฐานที่สหรัฐฯ เรียกเก็บในอัตรา 10%
มาตรการภาษีศุลกากรรอบใหม่กำลังส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมยาของสิงคโปร์ โดยผลิตภัณฑ์ยาคิดเป็นสัดส่วนกว่า 10% ของการส่งออกสินค้าจากสิงคโปร์ไปยังสหรัฐฯ ซึ่งรองนายกรัฐมนตรีเปิดเผยกับผู้สื่อข่าวในประเทศว่า เขาได้หารือถึงข้อกังวลดังกล่าวของสิงคโปร์ในระหว่างการสนทนาทางโทรศัพท์กับโฮเวิร์ด ลุตนิก รัฐมนตรีกระทรวงพาณิชย์ของสหรัฐฯ เมื่อวันศุกร์ (25 เม.ย.) อย่างไรก็ดี ลุตนิกอธิบายว่า ภาษี 10% เป็นภาษีพื้นฐานซึ่งไม่มีแนวโน้มว่าสหรัฐฯ จะปรับลดลง
นอกจากนี้ รองนายกรัฐมนตรีสิงคโปร์เปิดเผยด้วยว่า ลุตนิกยังได้หยิบยกประเด็นเรื่องการควบคุมการส่งออกชิปขั้นสูงสำหรับปัญญาประดิษฐ์ (AI) มาหารือด้วย อย่างไรก็ดี ลุตนิกได้แสดงความพอใจกับระบบการจัดการของสิงคโปร์ และแสดงความพร้อมที่จะทำงานร่วมกับสิงคโปร์เพื่อรักษาการเข้าถึงชิปและสำรวจมาตรการจำกัดการส่งออกชิป เพื่อให้แน่ใจว่าชิปจะถึงมือผู้ใช้ปลายทางที่ได้รับอนุญาต
ทั้งนี้ ความวิตกกังวลเกี่ยวกับการชะลอตัวของการค้าโลกทำให้รัฐบาลสิงคโปร์ปรับลดคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจภายในประเทศ นอกจากนี้ ประเด็นนี้ยังกลายเป็นหัวข้อสำคัญในการรณรงค์หาเสียงของพรรคกิจประชาชน (People’s Action Party) ซึ่งมุ่งหวังคว้าชัยในการเลือกตั้งอีกสมัยในวันที่ 3 พ.ค.นี้ หลังจากครองอำนาจการบริหารประเทศมาเป็นเวลานานถึง 60 ปี
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (28 เม.ย. 68)
Tags: กัน คิม ยอง, การค้า, การส่งออก, ภาษีศุลกากร, มาตรการภาษี, สหรัฐ, สิงคโปร์, อุตสาหกรรมยา