“Jack in the Box” ยักษ์ใหญ่ฟาสต์ฟู้ดสหรัฐฯ เตรียมปิดสาขาสูงสุด 200 แห่ง

แจ็คอินเดอะบ๊อกซ์ (Jack in the Box) แบรนด์ฟาสต์ฟู้ดยักษ์ใหญ่สัญชาติสหรัฐฯ จากเมืองซานดิเอโก รัฐแคลิฟอร์เนีย มีแผนจะปิดสาขาราว 150-200 แห่ง

สำนักข่าวซินหัวรายงานโดยอ้างอิงสื่อในสหรัฐฯ ว่า ปัจจุบัน แจ็คอินเดอะบ๊อกซ์มีร้านประมาณ 2,200 สาขา ใน 22 รัฐทั่วประเทศ ส่วนใหญ่ตั้งอยู่บริเวณแถบชายฝั่งตะวันตก รวมถึงมีหลายแห่งอยู่ในพื้นที่แถบแคลิฟอร์เนียตอนใต้ โดยซีอีโอของบริษัทระบุในแถลงการณ์เมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่า บริษัทกำลังเร่งสร้างกระแสเงินสดและชำระหนี้

สถานีโทรทัศน์เอ็นบีซี 7 (NBC 7) ในเมืองซานดิเอโก รายงานว่า แผนการปิดสาขาดังกล่าวถูกออกแบบมาเพื่อปรับปรุงผลการดำเนินงานทางการเงินของบริษัท โดยจะมีการปิดสาขาระหว่าง 80-120 แห่งภายในสิ้นปี 2568 นี้

นอกจากนี้ บริษัทยังระบุว่า ตั้งแต่ปีหน้าเป็นต้นไปจะ “ลดการใช้จ่าย” สำหรับการพัฒนาสาขาใหม่ลงอย่างมีนัยสำคัญ และจะพิจารณา “ทางเลือกเชิงกลยุทธ์” สำหรับอาหารฟาสต์ฟู้ดแบรนด์ เดล ทาโก (Del Taco) ซึ่งรวมถึงความเป็นไปได้ในการขายธุรกิจ

ทั้งนี้ แจ็คอินเดอะบ๊อกซ์เข้าซื้อกิจการเดลทาโก ในปี 2565 ด้วยมูลค่าประมาณ 585 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยเดลทาโกปัจจุบันเป็นเชนอาหารฟาสต์ฟู้ดเม็กซิกัน-อเมริกันที่ใหญ่เป็นอันดับสองในสหรัฐฯ ที่มีสาขาประมาณ 600 แห่ง

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (28 เม.ย. 68)

Tags: , ,
Back to Top