
บมจ.เจเคเอ็น โกลบอล กรุ๊ป [JKN] เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท เมื่อวันที่ 25 เมษายน 2568 มีมติที่สำคัญเห็นชอบให้ นายจักรพงษ์ จักราจุฑาธิบดิ์ ยังคงดำรงตำแหน่งกรรมการ กรรมการผู้มีอำนาจลงนาม กรรมการสรรหาและกำหนดค่าตอบแทน ประธานกรรมการบริหาร ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการของบริษัทตามเดิมจนกว่าจะมีคำสั่งถึงที่สุดในเรื่องดังกล่าว
แม้ว่าสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (สำนักงาน ก.ล.ต.) แจ้งว่าคณะกรรมการพิจารณามาตรการลงโทษทางแพ่ง (ค.ม.พ.) มีมติให้นำมาตรการลงโทษทางแพ่งมาใช้บังคับกับบริษัทและนายจักรพงษ์ ในฐานะเป็นบุคคลซึ่งรับผิดชอบในการดำเนินงานของนิติบุคคลตามรายละเอียดในหนังสือที่อ้างถึงนั้น
ในการนี้ ที่ประชุมฯ พิจารณาแล้วเห็นว่า ในส่วนความผิดของบริษัทนั้น เห็นควรยอมรับตามมาตรการลงโทษทางแพ่งดังกล่าว แต่เนื่องจากบริษัทอยู่ในกระบวนการฟื้นฟูกิจการ ซึ่งค่าปรับไม่ใช่การดำเนินธุรกิจปกติของบริษัท บริษัทจึงจะดำเนินการขออนุญาตต่อศาลล้มละลายกลางในการชำระค่าปรับดังกล่าวต่อไป
ในส่วนของนายจักรพงษ์นั้น เป็นความผิดเฉพาะบุคคล โดยตลอดเวลาที่ผ่านมา นายจักรพงษ์ถือเป็นผู้บริหารหลักในการผลักดันและการดำเนินงานของบริษัทอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับเป็นผู้มีส่วนสำคัญในการปฏิบัติตามแผนฟื้นฟูกิจการ ซึ่งบริษัทได้ยื่นแผนฟื้นฟูกิจการต่อเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์แล้วเมื่อวันที่ 4 เมษายน 2568 ให้เกิดความสำเร็จ ประกอบกับที่ประชุมฯ พิจารณาแล้วพบว่า มาตรการลงโทษทางแพ่งที่ ค.ม.พ. กำหนด ยังมิใช่คำสั่งอันเป็นที่สุดซึ่งส่งผลให้นายจักรพงษ์ต้องห้ามการเป็นกรรมการหรือผู้บริหารในบริษัทที่ออกหลักทรัพย์หรือบริษัทหลักทรัพย์
ดังนั้นในปัจจุบัน นายจักรพงษ์ จึงยังมีสิทธิอย่างสมบูรณ์ตามกฎหมายในการดำรงตำแหน่งเป็นกรรมการหรือผู้บริหารในบริษัทที่ออกหลักทรัพย์หรือบริษัทหลักทรัพย์เช่นเดิม
นอกจากนี้ เมื่อพิจารณาเพิ่มเติมแล้วก็ไม่พบว่า นายจักรพงษ์ ซึ่งเป็นกรรมการและผู้บริหารสูงสุดของบริษัทมีลักษณะขาดความน่าไว้วางใจอื่นใดในการดำรงตำแหน่งกรรมการและผู้บริหารของบริษัท ตามประกาศคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ ที่ กจ.3/2560เรื่อง การกำหนดลักษณะขาดความน่าไว้วางใจของกรรมการและผู้บริหารของบริษัท
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (28 เม.ย. 68)
Tags: JKN, จักรพงษ์ จักราจุฑาธิบดิ์, หุ้นไทย, เจเคเอ็น โกลบอล กรุ๊ป