มาเลเซียเปิดกว้างเจรจาสหรัฐฯ หวังคลายปมภาษีก่อนเส้นตายก.ค.นี้

มาเลเซียเดินหน้าเต็มกำลังเพื่อเจรจากับสหรัฐฯ หวังลดอุปสรรคทางการค้าที่ไม่ใช่ภาษี รวมถึงลดตัวเลขขาดดุลการค้าของสหรัฐฯ ก่อนถึงเส้นตายที่มาตรการภาษีศุลกากรตอบโต้ของสหรัฐฯ ซึ่งถูกระงับไว้จะกลับมามีผลบังคับใช้ในเดือนก.ค. และอาจส่งผลให้สินค้ามาเลเซียเผชิญกำแพงภาษีสูงถึง 24%

กระทรวงการค้าระหว่างประเทศและอุตสาหกรรมของมาเลเซียแถลงในวันนี้ (25 เม.ย.) ว่า รัฐบาลเปิดกว้างสำหรับแนวทางต่าง ๆ รวมถึงการพิจารณาข้อตกลงการค้าทวิภาคี เพื่อแก้ไขข้อกังวลของสหรัฐฯ และรักษาความสัมพันธ์ทางการค้าอันเป็นประโยชน์ร่วมกันของทั้งสองประเทศ

ความเคลื่อนไหวนี้เกิดขึ้นหลังจากการเยือนสหรัฐฯ ของเต็งกู ซาฟรูล อาซิซ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการค้าฯ ซึ่งได้หารือกับเจ้าหน้าที่ระดับสูงของสหรัฐฯ ได้แก่ โฮเวิร์ด ลุตนิก รัฐมนตรีพาณิชย์ และเจมีสัน กรีเออร์ ผู้แทนการค้าสหรัฐฯ ณ กรุงวอชิงตัน ในสัปดาห์นี้

“การพบปะหารือครั้งนี้ถือเป็นก้าวที่ถูกต้อง เราจะเร่งติดตามประเด็นสำคัญที่ได้หารือกันภายในกรอบเวลา 90 วันนับตั้งแต่มีการระงับมาตรการภาษีชั่วคราว” เต็งกู ซาฟรูล กล่าวในแถลงการณ์

“เราขอย้ำว่าช่องทางการสื่อสารทั้งหมดยังเปิดกว้าง และเราจะทำงานอย่างต่อเนื่องเพื่อหาทางออกที่เป็นมิตรในประเด็นภาษีตอบโต้ของสหรัฐฯ” เต็งกู ซาฟรูล กล่าวเสริม

นอกเหนือจากประเด็นภาษีแล้ว การหารือที่วอชิงตันยังครอบคลุมถึงแนวทางที่สหรัฐฯ จะสามารถทำงานร่วมกับอาเซียนได้อย่างใกล้ชิดยิ่งขึ้น โดยเฉพาะในปีนี้ที่มาเลเซียดำรงตำแหน่งประธานอาเซียน

ทั้งนี้ หลายประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่พึ่งพาการส่งออกต่างได้รับผลกระทบจากนโยบายภาษีของสหรัฐฯ โดยมีถึง 6 จาก 10 ประเทศในภูมิภาคที่ถูกเรียกเก็บภาษีในอัตราสูงตั้งแต่ 32%-49% อย่างไรก็ตาม มาเลเซียยืนยันว่าจะไม่ใช้มาตรการตอบโต้ และพร้อมร่วมมือกับสหรัฐฯ เพื่อหาทางออก

ความไม่แน่นอนทางการค้าและภาษียังส่งผลกระทบต่อภาพรวมเศรษฐกิจ โดยผู้ว่าการธนาคารกลางมาเลเซียยอมรับเมื่อวันพุธ (23 เม.ย.) ว่า อาจจำเป็นต้องทบทวนปรับลดตัวเลขคาดการณ์การเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศสำหรับปีนี้ ซึ่งปัจจุบันอยู่ที่ 4.5%-5.5% แม้จะยังไม่รีบตัดสินใจก็ตาม

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (25 เม.ย. 68)

Tags: , , ,
Back to Top