คณะรัฐมนตรีไต้หวันเสนอแผนจัดสรรงบประมาณพิเศษ 4.10 แสนล้านดอลลาร์ไต้หวัน (1.26 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 4.22 แสนล้านบาท) เพื่อช่วยเศรษฐกิจของไต้หวันรับมือกับผลกระทบจากมาตรการภาษีศุลกากรของสหรัฐฯ
นายกรัฐมนตรีโช จุงไท่ กล่าวในการแถลงข่าววันนี้ (24 เม.ย.) ว่า งบประมาณพิเศษนี้เป็นการตอบสนองต่อ “ผลกระทบจากนโยบายภาษีของสหรัฐฯ ที่มีต่ออุตสาหกรรม โครงสร้างการส่งออก และตลาดแรงงานโดยรวมของเรา ตลอดจนผลกระทบต่อการดำรงชีวิตในสังคม และราคาสินค้า”
อย่างไรก็ดี งบประมาณพิเศษดังกล่าว ซึ่งจะประกอบไปด้วยเงินช่วยเหลือบริษัทต่าง ๆ มาตรการรักษาเสถียรภาพของตลาดแรงงาน และเงินอุดหนุนค่าไฟฟ้า ฯลฯ จะต้องได้รับการอนุมัติจากรัฐสภา ซึ่งพรรคฝ่ายค้านครองเสียงข้างมาก และเคยหั่นงบประมาณที่รัฐบาลเสนอมาแล้วในปีนี้
ทั้งนี้ รัฐบาลไต้หวันได้เริ่มเจรจาภาษีรอบแรกกับสหรัฐฯ ไปเมื่อวันที่ 11 เม.ย. และคาดว่าการเจรจารอบสองจะเกิดขึ้นในอนาคตอันใกล้ โดยไต้หวันพยายามหลีกเลี่ยงภาษีศุลกากร ซึ่งถูกสหรัฐฯ ขู่เรียกเก็บในอัตรา 32% ด้วยการให้สัญญาว่าจะเพิ่มการลงทุนในสหรัฐฯ จะซื้อพลังงานจากสหรัฐฯ เพิ่มขึ้น รวมทั้งจะเพิ่มงบประมาณด้านกลาโหมด้วย
ขณะที่บริษัทผลิตชิปยักษ์ใหญ่ของไต้หวันอย่าง TSMC ได้ประกาศเมื่อเดือนที่แล้วว่าจะลงทุน 1 แสนล้านดอลลาร์ในสหรัฐฯ
ไต้หวันเกินดุลการค้ากับสหรัฐฯ สูงเป็นอันดับเจ็ดของโลก ด้วยมูลค่า 7.39 หมื่นล้านดอลลาร์ในปี 2567 ซึ่งประมาณ 60% ของการส่งออกไปยังสหรัฐฯ เป็นสินค้าประเภทเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร รวมถึงเซมิคอนดักเตอร์
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (24 เม.ย. 68)
Tags: ภาษีทรัมป์, ภาษีศุลกากร, สหรัฐ, อุตสาหกรรม, ไต้หวัน