
ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ผู้นำจีนให้คำมั่นว่า จีนซึ่งเป็นประเทศที่ปล่อยก๊าซเรือนกระจกมากที่สุดในโลก จะเพิ่มความเข้มงวดในการควบคุมการปล่อยก๊าซเรือนกระจกในทศวรรษหน้าในการเจรจาด้านสภาพภูมิอากาศระดับโลกที่จัดขึ้นโดยไม่มีสหรัฐฯ เข้าร่วม
CCTV สื่อของทางการจีนรายงานว่า ปธน.สีประกาศเมื่อวันพุธ (23 เม.ย.) ระหว่างการประชุมออนไลน์ของผู้นำโลกที่จัดโดยสหประชาชาติ (UN) และบราซิลว่า จีนจะประกาศเป้าหมายใหม่เพื่อลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกภายในปี 2578 โดยครอบคลุมทุกภาคส่วนของเศรษฐกิจและก๊าซเรือนกระจกทุกชนิดก่อนการประชุม COP30 ที่จะจัดขึ้นในเดือนพ.ย.ปีนี้
เจ้าหน้าที่จีนได้เคยให้คำมั่นที่คล้ายกันนี้มาก่อนว่าจะกำหนดเป้าหมายที่ครอบคลุมทุกภาคส่วนเศรษฐกิจในการลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2) และจัดการกับก๊าซเรือนกระจกชนิดอื่น ๆ เช่น มีเทนและไนตรัสออกไซด์
อย่างไรก็ตาม การที่ปธน.สียืนยันแผนดังกล่าวในที่ประชุมซึ่งมีผู้นำประเทศต่าง ๆ เข้าร่วมถือเป็นสัญญาณว่า จีนจะยังคงเดินหน้าตามเป้าหมาย แม้เศรษฐกิจชะลอตัว เผชิญผลกระทบจากมาตรการภาษี และการที่สหรัฐฯ ภายใต้ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ถอนตัวจากเวทีด้านสภาพภูมิอากาศโลก
การควบคุมมลพิษจากก๊าซอื่น ๆ นอกเหนือจาก CO2 ถือเป็นประเด็นสำคัญในการจัดทำแผนลดการปล่อยก๊าซแห่งชาติฉบับใหม่ตามข้อตกลงปารีส โดยก๊าซเรือนกระจกที่ไม่ใช่ CO2 คิดเป็นสัดส่วนประมาณ 17% ของการปล่อยก๊าซเรือนกระจกทั้งหมดของจีน ซึ่งมากกว่าการปล่อยก๊าซรวมกันของหลายประเทศ
ทั้งนี้ การปล่อยก๊าซเรือนกระจกของจีนคิดเป็นสัดส่วนประมาณ 30% ของการปล่อยก๊าซเรือนกระจกทั้งหมดของโลกในปี 2566
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (24 เม.ย. 68)
Tags: ก๊าซเรือนกระจก, จีน, สหรัฐ, สี จิ้นผิง