
ตลาดหุ้นเอเชียเปิดผันผวนในวันนี้ (24 เม.ย.) หลังจากคณะบริหารของโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ ส่งสัญญาณไม่ชัดเจนเกี่ยวกับมาตรการภาษีศุลกากรที่วางแผนใช้กับจีน
ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดที่ระดับ 35,194.71 จุด เพิ่มขึ้น 326.08 จุด หรือ +0.94% ดัชนีฮั่งเส็งตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดที่ระดับ 22,030.15 จุด ลดลง 42.47 จุด หรือ -0.19% และดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตเปิดตลาดที่ระดับ 3,295.15 จุด ลดลง 1.21 จุด หรือ -0.04%
ส่วนดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ปรับตัวลง 0.47% และดัชนี S&P/ASX 200 ตลาดหุ้นออสเตรเลียบวก 0.56%
ปธน.ทรัมป์กล่าวกับผู้สื่อข่าวที่ทำเนียบขาวเมื่อวันอังคาร (22 เม.ย.) ว่า ภาษีศุลกากรที่เรียกเก็บจากสินค้าจีนในอัตรา 145% นั้น ถือว่าอยู่ในระดับที่สูงมาก แต่สหรัฐฯ จะไม่เรียกเก็บภาษีที่สูงเช่นนั้น โดยจะปรับลดลงต่ำกว่านั้นมาก แต่ไม่ถึงระดับ 0% ซึ่งบ่งชี้ว่าปธน.ทรัมป์มีท่าทีผ่อนคลายลงในการใช้มาตรการภาษีกับจีน และเป็นปัจจัยหนุนดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กพุ่งขึ้นอย่างแข็งแกร่งในวันพุธ
แต่บรรยากาศการซื้อขายในตลาดหุ้นเอเชียช่วงเช้านี้เป็นไปอย่างผันผวน เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับความไม่แน่นอนของช่วงเวลาในการผ่อนคลายภาษีให้กับจีน หลังจากสก็อตต์ เบสเซนต์ รัฐมนตรีคลังสหรัฐฯ เปิดเผยว่า การเจรจาอย่างเป็นทางการกับจีนยังไม่ได้เริ่มต้นขึ้น
สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจในวันนี้ ธนาคารกลางเกาหลีใต้ (BOK) เปิดเผยการประมาณการเบื้องต้นของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ประจำไตรมาส 1/2568 โดยระบุว่า GDP หดตัวลง 0.2% ในไตรมาสแรกของปีนี้ ซึ่งเป็นการหดตัวครั้งแรกในรอบประมาณหนึ่งปี
BOK ระบุว่า ปัจจัยที่ทำให้ GDP หดตัวลง มาจากการส่งออกและอุปสงค์ภายในประเทศที่อ่อนแอลง ท่ามกลางความวิตกกังวลเกี่ยวกับผลกระทบของมาตรการภาษีศุลกากรของโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ รวมทั้งวิกฤตการณ์ด้านการเมืองที่เกิดขึ้นภายในประเทศ
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (24 เม.ย. 68)
Tags: ตลาดหุ้น, ตลาดหุ้นเอเชีย