ธนาคารกลางเกาหลีใต้ (BOK) เปิดเผยการประมาณการเบื้องต้นของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ประจำไตรมาส 1/2568 ในวันนี้ (24 เม.ย.) โดยระบุว่า GDP หดตัวลง 0.2% ในไตรมาสแรกของปีนี้ ซึ่งเป็นการหดตัวครั้งแรกในรอบประมาณหนึ่งปี
BOK ระบุว่า ปัจจัยที่ทำให้ GDP หดตัวลง มาจากการส่งออกและอุปสงค์ภายในประเทศที่อ่อนแอลง ท่ามกลางความวิตกกังวลเกี่ยวกับผลกระทบของมาตรการภาษีศุลกากรของโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ รวมทั้งวิกฤตการณ์ด้านการเมืองที่เกิดขึ้นภายในประเทศ
มาตรการภาษีศุลกากรของปธน.ทรัมป์ได้ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจเกาหลีใต้ที่ต้องพึ่งพาการค้า โดยเขาประกาศใช้มาตรการภาษีศุลกากรตอบโต้ (Reciprocal Tariffs) กับหลายประเทศเมื่อวันที่ 2 เม.ย. ซึ่งรวมถึงเกาหลีใต้ที่ถูกเก็บภาษีในอัตรา 25% แต่หลังจากนั้นไม่นานปธน.ทรัมป์ได้ประกาศผ่อนผันการเก็บภาษีดังกล่าวเป็นเวลา 90 วัน
ก่อนหน้านี้ BOK คาดการณ์ว่าเศรษฐกิจเกาหลีใต้จะขยายตัว 1.5% ในปี 2568 แต่รี ชางยอง ผู้ว่าการ BOK กล่าวกับผู้สื่อข่าวเมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่า การคาดการณ์ดังกล่าวอาจเป็นการแสดงมุมมองบวกมากเกินไป เมื่อพิจารณาจากผลกระทบจากนโยบายภาษีของปธน.ทรัมป์
นอกจากนี้ เศรษฐกิจเกาหลีใต้ยังได้รับผลกระทบจากวิกฤตการณ์การเมืองภายในประเทศ หลังจากอดีตประธานาธิบดียุน ซอกยอล ได้ประกาศใช้กฎอัยการศึกในวันที่ 3 ธ.ค. 2567 และต่อมาเมื่อวันที่ 4 เม.ย.ปีนี้ เขาได้ถูกปลดออกจากตำแหน่ง
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (24 เม.ย. 68)
Tags: BOK, GDP, ธนาคารกลางเกาหลีใต้, เกาหลีใต้, เศรษฐกิจเกาหลีใต้