ไม่ต้องไปขนส่ง! ครม.ไฟเขียวต่อใบขับขี่ผ่านออนไลน์ ไม่ต้องทดสอบสมรรถภาพร่างกาย

นายคารม พลพรกลาง รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) อนุมัติในหลักการร่างกฎกระทรวงการขอและการออกใบอนุญาตขับรถ และการต่ออายุใบอนุญาตขับรถ ปรับเงื่อนไขเรื่องการทดสอบสมรรถภาพของร่างกาย เพื่อให้สามารถดำเนินการต่ออายุใบอนุญาตขับรถ สามารถดำเนินการผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ได้ และเป็นไปตาม พ.ร.บ.การปฏิบัติราชการทางอิเล็กทรอนิกส์ พ.ศ. 2565 ที่กำหนดให้หน่วยงานของรัฐมีหน้าที่ต้องจัดให้มีวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ เพื่อให้ประชาชนสามารถติดต่อราชการโดยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ได้ ซึ่งช่วยให้ประชาชนได้รับความสะดวก ลดภาระค่าใช้จ่าย และระยะเวลาในการเดินทางมาติดต่อราชการ และยังคงมาตรฐานในการตรวจสอบ และคัดกรองผู้ขอต่ออายุใบอนุญาตขับรถต่อไป ประกอบกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องพิจารณาแล้วเห็นชอบด้วยในหลักการ

“ปัจจุบัน การขอต่ออายุใบอนุญาตขับรถตามกฎหมายว่าด้วยรถยนต์ ต้องปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่กำหนดตามกฎกระทรวงการขอ และการออกใบอนุญาตขับรถ และการต่ออายุใบอนุญาตขับรถ พ.ศ. 2563 ซึ่งกำหนดให้ประชาชนต้องมาดำเนินการทดสอบสมรรถภาพของร่างกายด้วยตนเองทุกครั้งที่ขอต่ออายุใบอนุญาตขับรถ ณ ที่ทำการของนายทะเบียน ทำให้ไม่สามารถดำเนินการโดยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ได้ ส่งผลให้ประชาชนไม่ได้รับความสะดวก มีภาระค่าใช้จ่าย และจำเป็นต้องใช้ระยะเวลาในการเดินทางมา ณ ที่ทำการของนายทะเบียนและไม่สอดคล้องกับการดำเนินการตาม พ.ร.บ.การปฏิบัติราชการทางอิเล็กทรอนิกส์ พ.ศ.2565 และตามนโยบายรัฐบาลอิเล็กทรอนิกส์ (e-Government)” นายคารม กล่าว

กรมการขนส่งทางบกจึงได้จัดทำร่างกฎกระทรวงฯ ซึ่งเป็นการแก้ไขเพิ่มเติมที่มีสาระสำคัญ คือ

  1. ยกเว้นการทดสอบสมรรถภาพของร่างกาย สำหรับการขอต่ออายุใบอนุญาตขับรถ ซึ่งผู้ขอต่ออายุใบอนุญาตขับรถ ต้องมีอายุไม่เกินเกณฑ์ที่กำหนด หรือไม่มีเงื่อนไขด้านสภาพร่างกาย ตามที่อธิบดีกรมการขนส่งทางบกประกาศกำหนด
  2. กำหนดให้ผู้ขอต่ออายุใบอนุญาตขับรถ ซึ่งมีอายุ และเงื่อนไขของสภาพร่างกาย หรือเงื่อนไขอื่นตามที่อธิบดีกรมการขนส่งทางบกประกาศกำหนด ต้องทดสอบสมรรถภาพของร่างกาย ซึ่งอย่างน้อยต้องทำการทดสอบความสามารถของปฏิกิริยา และสายตา และผ่านการอบรม

โดยกฎกระทรวงนี้ ให้มีผลเริ่มใช้บังคับเมื่อพ้นกำหนด 90 วัน นับแต่วันประกาศในราชกิจจานุเบกษา

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (22 เม.ย. 68)

Tags: , , ,
Back to Top