เจดี แวนซ์ รองประธานาธิบดีสหรัฐฯ เดินทางถึงกรุงนิวเดลีแล้วในวันนี้ (21 เม.ย.) เพื่อเริ่มต้นภารกิจเยือนอินเดียเป็นเวลา 4 วัน ท่ามกลางความตึงเครียดทางการค้าทั่วโลกซึ่งมีชนวนเหตุมาจากนโยบายกำแพงภาษีของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ
แวนซ์ และภริยา อูชา แวนซ์ ได้รับการต้อนรับที่สนามบินโดยอัศวินี ไวษณพ รัฐมนตรีกระทรวงเทคโนโลยี ซึ่งเป็นพันธมิตรใกล้ชิดกับนเรนทรา โมดี นายกรัฐมนตรีอินเดีย มีการยิงสลุตแสดงความเคารพและการบรรเลงเพลงชาติสหรัฐฯ โดยวงดุริยางค์ทหาร
การเดินทางเยือนอินเดียของแวนซ์นับว่ามีนัยสำคัญทั้งในแง่ของการเมืองและส่วนตัว โดยในแง่ของการเมืองนั้น ปัจจุบัน อัตราภาษีที่สหรัฐฯ เรียกเก็บจากสินค้าอินเดียนั้นยังอยู่ที่ 10% เหมือนกับทุกประเทศ (ยกเว้นจีน) อย่างไรก็ตาม หากไม่สามารถบรรลุข้อตกลงการค้าได้ภายในช่วง 90 วัน ภาษีนำเข้าดังกล่าวจะเพิ่มขึ้นเป็น 26% ตามตัวเลขภาษีตอบโต้ที่ทรัมป์ประกาศใช้กับอินเดียเมื่อวันที่ 2 เม.ย.
อินเดียถือเป็นหนึ่งในหลายประเทศที่สหรัฐฯ ให้ความสำคัญกับการเจรจา ด้วยความหวังว่าจะบรรลุข้อตกลงกันได้ก่อนครบระยะเวลาการยกเว้นภาษีตอบโต้นาน 90 วัน ขณะที่อินเดียเองก็ตั้งความหวังไว้สูงเช่นกันว่า การเยือนของแวนซ์ครั้งนี้จะช่วยให้ประเทศสามารถบรรลุข้อตกลงกับสหรัฐฯ ได้ก่อนครบกำหนดดังกล่าวในเดือนก.ค.
ส่วนในแง่ความสำคัญส่วนตัวนั้น อูชา ภรรยาของแวนซ์ เป็นสุภาพสตรีหมายเลขสองคนแรกที่เป็นชาวอเมริกันเชื้อสายอินเดีย โดยสื่อของอินเดียให้ความสนใจเธออย่างมาก คล้ายคลึงกับที่อดีตรองประธานาธิบดีคามาลา แฮร์ริส ซึ่งเป็นชาวอเมริกันเชื้อสายอินเดียเช่นกัน เคยได้รับความสนใจอย่างกว้างขวางมาแล้ว แม้แฮร์ริสไม่เคยเยือนอินเดียในช่วงสี่ปีที่ดำรงตำแหน่งรองประธานาธิบดีก็ตาม
ทั้งนี้ ทำเนียบขาวเปิดเผยว่า นายกฯโมดีจะจัดการประชุมทวิภาคีกับรองประธานาธิบดีสหรัฐฯ และแม้ว่าการเจรจาการค้าจะเป็นภารกิจหลัก แต่กำหนดการของแวนซ์ยังรวมถึงการเยี่ยมชมสถานที่สำคัญ ๆ ในเมืองชัยปุระ และเมืองอาครา ซึ่งเป็นสถานที่ตั้งของทัชมาฮาล ด้วย
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (21 เม.ย. 68)
Tags: ดีลการค้า, สหรัฐ, อินเดีย