
เจ้าหน้าที่ระดับสูงจากสำนักงานสถิติแห่งชาติจีน (NBS) เปิดเผยในวันนี้ (16 เม.ย.) ว่า การที่สหรัฐอเมริกาเรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนในอัตราที่สูงขึ้นจะสร้างแรงกดดันต่อเศรษฐกิจและการค้าของจีนในระยะสั้น แต่จะไม่เปลี่ยนแปลงแนวโน้มเชิงบวกในระยะยาว
เซิง ไล่อวิ๋น รองผู้อำนวยการ NBS แถลงข่าวว่า “เราคัดค้านการตั้งกำแพงภาษีและการกลั่นแกล้งทางการค้าของสหรัฐฯ เนื่องจากการกระทำดังกล่าวเป็นภัยต่อทุกฝ่าย”
อย่างไรก็ดี เซิงยืนยันว่า จีนมีความเชื่อมั่นและมีความสามารถในการรับมือกับอุปสรรคจากภายนอกและบรรลุเป้าหมายการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศ โดยให้เหตุผลว่าเศรษฐกิจจีนมีรากฐานที่มั่นคงและมีความสามารถในการฟื้นตัว
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า จีนตั้งเป้าหมายการเติบโตของ GDP เอาไว้ที่ราว 5% ในปี 2568 ขณะที่ข้อมูลจาก NBS แสดงให้เห็นว่า เศรษฐกิจจีนขยายตัว 5.4% ในไตรมาสแรกของปีนี้ เมื่อเทียบเป็นรายปี เพิ่มขึ้น 1.2% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า
เซิงกล่าวว่า นับตั้งแต่มีการปฏิรูปและเปิดประเทศ เศรษฐกิจจีนได้เผชิญกับความท้าทายสำคัญ ๆ และสั่งสมประสบการณ์มากมายในแง่ของการจัดการเศรษฐกิจมหภาค พร้อมเสริมว่า จีนจะดำเนินนโยบายเพิ่มเติมเพื่อตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงของสภาพแวดล้อมภายนอกประเทศ โดยย้ำว่ามาตรการที่เข้มแข็งช่วยให้จีนสามารถรับมือกับผลกระทบและความท้าทายจากภายนอกได้
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (16 เม.ย. 68)
Tags: การค้าโลก, การเติบโต GDP, ความมั่นคงทางเศรษฐกิจ, จีน, ภาษีนำเข้า, สหรัฐ, สำนักงานสถิติแห่งชาติจีน, เศรษฐกิจจีน