หยุดสงกรานต์วันแรก!! คาดผู้โดยสารเดินทางรถไฟฯ กว่า 1.2 แสนคน รฟท.เพิ่มขบวนรถเสริม

นายวีริศ อัมระปาล ผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) เปิดเผยว่า ภาพรวมการเดินทางของประชาชนทั่วประเทศ เมื่อวันที่ 11 เมษายน 2568 ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นวันสุดท้ายของการทำงานก่อนหยุดยาวในช่วงเทศกาลสงกรานต์นั้น มีผู้โดยสารที่เดินทางโดยรถไฟทั่วประเทศ จำนวนทั้งสิ้น 90,347 คน แบ่งเป็นผู้โดยสารขบวนรถปกติ 87,227 คน และขบวนรถเสริมพิเศษ 3,120 คน โดยมีผู้โดยสารขาเข้า 40,375 คน และขาออก 49,972 คน

ทั้งนี้ เส้นทางที่มีผู้โดยสารเดินทางหนาแน่นที่สุด ได้แก่ สายใต้ จำนวน 31,036 คน สายตะวันออกเฉียงเหนือ จำนวน 25,042 คน สายเหนือ จำนวน 17,603 คน สายตะวันออก จำนวน 10,435 คน สายมหาชัย จำนวน 5,447 คน และสายแม่กลอง จำนวน 784 คน ซึ่งบรรยากาศภายในสถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ และสถานีกรุงเทพ (หัวลำโพง) เป็นไปด้วยความเรียบร้อย และไม่พบปัญหาผู้โดยสารตกค้าง

สำหรับบรรยากาศการเดินทางที่สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ ในช่วงเช้าของวันนี้ (12 เม.ย.) ซึ่งเป็นวันแรกของการหยุดยาว ยังมีผู้โดยสารทยอยเดินทางกลับอย่างต่อเนื่องตลอดทั้งวัน คาดว่าจะมีผู้โดยสารที่สำรองตั๋วโดยสารล่วงหน้าทั้งขบวนรถปกติ และขบวนรถเสริมพิเศษช่วยการโดยสารไว้เรียบร้อยแล้ว มารอขึ้นขบวนรถไฟตลอดช่วงบ่ายจนถึงช่วงค่ำ โดยในวันนี้คาดว่าจะมีผู้โดยสารใช้บริการกว่า 117,128 คน แบ่งเป็นผู้โดยสารขาเข้า 35,138 คน และผู้โดยสารขาออก 81,990 คน

*การรถไฟฯ เพิ่มขบวนรถเสริมพิเศษอีก 6 ขบวน ดังนี้
  • ขบวน 978 อุบลราชธานี – สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ ออกเวลา 06.00 น. ถึง 15.20 น.
  • ขบวน 956 ศิลาอาสน์ – สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ ออกเวลา 07.30 น. ถึง 15.00 น.
  • ขบวน 968 อุดรธานี – สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ ออกเวลา 09.00 น. ถึง 18.15 น.
  • ขบวน 984 ยะลา – สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ ออกเวลา 15.35 น. ถึง 9.50 น.
  • ขบวน 977 สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ – อุบลราชธานี ออกเวลา 18.20 น. ถึง 04.25 น.
  • ขบวน 6 เชียงใหม่ – สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ ออกเวลา 19.35 น. ถึง 08.10 น.

นอกจากนี้ การรถไฟฯ ยังประสานกับกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เพื่อจัดเจ้าหน้าที่ตำรวจมาดูแลความปลอดภัย และตรวจตราความเรียบร้อยบนขบวนรถไฟด้วย พร้อมทั้งประสานความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ปกครองท้องถิ่น จัดอาสาสมัครดูแลทางผ่านเสมอระดับที่มีความเสี่ยง เพื่อลดโอกาสการเกิดอุบัติเหตุ ทั้งทางถนนและทางรถไฟ

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (12 เม.ย. 68)

Tags:
Back to Top