
กัว จื้อฮุย รัฐมนตรีเศรษฐกิจไต้หวัน เปิดเผยในวันนี้ (10 เม.ย.) ว่า ไต้หวันเตรียมเสนอแผนซื้อสินค้าจากสหรัฐฯ เพิ่มเติม มูลค่า 2 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐตลอดทศวรรษหน้า และอาจเพิ่มสัดส่วนการนำเข้าก๊าซธรรมชาติเหลว (LNG) จากสหรัฐฯ เป็น 30% เพื่อช่วยให้สหรัฐฯ ขาดดุลการค้ากับไต้หวันน้อยลง หวังนำไปสู่การบรรลุข้อตกลงการค้า
ข้อเสนอนี้เน้นการจัดซื้อผ่านหน่วยงานรัฐเป็นหลัก และมีขึ้นหลังจากที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ เพิ่งสั่งพักการขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าไต้หวันตามที่เคยขู่ไว้
รมว.เศรษฐกิจยืนยันตัวเลข 2 แสนล้านดอลลาร์ในสภาฯ และระบุว่า การเพิ่มสัดส่วนนำเข้า LNG จากสหรัฐฯ จากเดิม 10% เป็น 30% นั้น เป็นแนวทางที่กำลังพิจารณา
ความเคลื่อนไหวนี้เป็นไปตามที่ประธานาธิบดีไล่ ชิงเต๋อ เคยให้คำมั่นไว้เมื่อวันอาทิตย์ (6 เม.ย.) ว่าจะเจรจาข้อตกลงปลอดภาษีกับสหรัฐฯ รวมถึงเพิ่มการนำเข้าและการลงทุนจากสหรัฐฯ
ก่อนหน้านี้ สหรัฐฯ เคยขู่จะขึ้นภาษีสินค้าไต้หวันถึง 32% (ยกเว้นกลุ่มเซมิคอนดักเตอร์) ซึ่งกระทบตลาดอย่างหนัก ก่อนที่ปธน.ทรัมป์จะสั่งระงับชั่วคราว
เจ้าหน้าที่ไต้หวันแสดงความหวังต่อการเจรจา โดยหลิน เจียหลง รัฐมนตรีต่างประเทศ กล่าวว่า การพักเก็บภาษีนำเข้าเปิดทางให้สามารถเจรจาลงรายละเอียดได้ลึกขึ้น และยืนยันว่าสหรัฐฯ ได้รับข้อเสนอและตอบกลับแล้ว โดยหวังสร้าง “แนวร่วมไต้หวัน-สหรัฐฯ”
จั๋ว หรงไท่ นายกรัฐมนตรี เสริมว่า รัฐบาลจะใช้โอกาสนี้พูดคุยกับสหรัฐฯ อย่างตรงไปตรงมาและมีประสิทธิภาพ
ตลาดหุ้นไต้หวันขานรับข่าวดี โดยดัชนีหลักพุ่งทำสถิติ 9.3% ในวันนี้ ฟื้นตัวจากที่ร่วงลงหนักก่อนหน้านี้ โดยหุ้นบริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่อย่าง TSMC และ Foxconn ดีดตัวขึ้นเกือบ 10%
อย่างไรก็ตาม หยาง จินหลง ผู้ว่าการธนาคารกลางไต้หวัน เตือนว่า นโยบายการค้าของปธน.ทรัมป์ยังมีความไม่แน่นอนสูง พร้อมระบุว่า ไต้หวันยังคงถือครองพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ คิดเป็นสัดส่วนกว่า 80% ของทุนสำรองระหว่างประเทศ
ปัจจุบัน ไต้หวันนำเข้า LNG ส่วนใหญ่จากออสเตรเลียและกาตาร์ สำหรับแผนจัดซื้อมูลค่า 2 แสนล้านดอลลาร์นี้ ยังไม่นับรวมการสั่งซื้อที่อาจเกิดขึ้นจากภาคเอกชนของไต้หวัน
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (10 เม.ย. 68)
Tags: ข้อตกลงการค้า, สินค้าสหรัฐ, ไต้หวัน