
ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ ได้ลงนามคำสั่งฝ่ายบริหารเมื่อวันพุธ (9 เม.ย.) เพื่อปฏิรูปกฎเกณฑ์การส่งออกยุทโธปกรณ์ของสหรัฐฯ โดยมุ่งเป้าให้บริษัทด้านกลาโหมสามารถจำหน่ายอาวุธให้กับชาติพันธมิตรได้ง่ายและรวดเร็วยิ่งขึ้น
วิลล์ ชาร์ฟ ที่ปรึกษาของทำเนียบขาวกล่าวระหว่างพิธีลงนามว่า สหรัฐฯ มีปัญหาในการส่งมอบระบบอาวุธให้แก่ชาติพันธมิตรสำคัญอย่างมีประสิทธิภาพ เพราะกระบวนการอนุมัติการขายอาวุธให้กับต่างประเทศนั้นไร้ประสิทธิภาพและไม่สอดคล้องกัน
ชาร์ฟเสริมว่า คำสั่งบริหารนี้จะกำหนดให้กระทรวงกลาโหม กระทรวงการต่างประเทศ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมกันปรับปรุงกระบวนการขายอาวุธให้ต่างประเทศ ซึ่งไม่เพียงแต่จะช่วยกระชับความสัมพันธ์กับชาติพันธมิตร แต่ยังเอื้อประโยชน์ต่อเศรษฐกิจในประเทศด้วยการสร้างงานและเพิ่มรายได้ให้บริษัทผู้ผลิตอาวุธอเมริกัน
ปัจจุบัน กฎหมายควบคุมการส่งออกอาวุธของสหรัฐฯ ให้สิทธิ์แก่รัฐสภาในการตรวจสอบการส่งออกอาวุธไปยังประเทศอื่น ๆ โดยขึ้นอยู่กับความสัมพันธ์ระหว่างประเทศนั้น ๆ กับสหรัฐฯ รวมถึงมูลค่าของข้อตกลง
ในอดีตทรัมป์เคยแสดงความไม่พอใจที่สมาชิกรัฐสภาชะลอการขายอาวุธด้วยข้อกังวลด้านสิทธิมนุษยชน จนถึงขั้นที่เขาเคยประกาศภาวะฉุกเฉินแห่งชาติในปี 2562 เพื่อเลี่ยงการตรวจสอบ และอนุมัติการขายอาวุธมูลค่ากว่า 8 พันล้านดอลลาร์ให้กลุ่มประเทศตะวันออกกลาง
นอกจากนี้ ทรัมป์ยังได้ลงนามคำสั่งอีกฉบับให้ทบทวนโครงการจัดซื้อจัดจ้างทั่วไปของกระทรวงกลาโหม โดยชาร์ฟชี้ว่าจะช่วยให้กองทัพสหรัฐฯ ปรับตัวรับสถานการณ์โลกที่เปลี่ยนแปลงได้เร็วขึ้น และช่วยให้มั่นใจว่าการใช้งบประมาณนั้นมีความคุ้มค่า เกิดประโยชน์สูงสุดต่อกองทัพ
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (10 เม.ย. 68)
Tags: การส่งออก, สหรัฐ, อาวุธยุทโธปกรณ์, โดนัลด์ ทรัมป์