SJWD คว้างานใหม่ 2 รายในเวียดนามกว่า 450 ลบ.ให้บริการโลจิสติกส์ครบวงจร

นายบรรณ เกษมทรัพย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารร่วม บมจ.เอสซีจี เจดับเบิ้ลยูดี โลจิสติกส์ [SJWD] เปิดเผยว่า บริษัท เอสซีจี เจดับเบิ้ลยูดี โลจิสติกส์ (เวียดนาม) จำกัด หรือ SCGJWD Logistics (Vietnam) Co., Ltd. (เดิมชื่อ SCG International Vietnam) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยที่ SJWD ถือหุ้น 100% ได้เซ็นสัญญารับงานใหม่จากลูกค้า 2 รายในประเทศเวียดนาม ได้แก่ (1) Vina Kraft Paper Co., Ltd. (VKPC) ผู้ผลิตกระดาษบรรจุภัณฑ์ชั้นนำในเวียดนาม ซึ่งเป็นบริษัทร่วมทุนระหว่างบริษัท สยามคราฟท์อุตสาหกรรม จำกัด (SCGP) และ Rengo Company Limited ประเทศญี่ปุ่น และ (2) บริษัท เอ.เจ.พลาสท์ (เวียดนาม) จำกัด ผู้ผลิตแผ่นฟิล์มพลาสติกสำหรับบรรจุภัณฑ์ ซึ่งเป็นบริษัทร่วมทุนระหว่างบมจ.เอสซีจี เคมิคอลส์ และ บมจ.เอ.เจ.พลาสท์ [AJP] โดยมีมูลค่างานรวมกันกว่า 450 ล้านบาท ซึ่งจะช่วยเพิ่มความมั่นคงแก่ผลการดำเนินงานและเพิ่มรายได้ในเวียดนาม

เอสซีจี เจดับเบิ้ลยูดี โลจิสติกส์ (เวียดนาม) ได้เซ็นสัญญาให้บริการโลจิสติกส์แก่ Vina Kraft Paper ต่อเนื่องอีก 4 ปี (ปี 2025-2028) เพื่อให้บริการขนส่งกระดาษรีไซเคิลมายังโรงงานของ Vina Kraft Paper และความร่วมมือในโครงการปรับเปลี่ยนมาใช้ยานพาหนะที่ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้าภายในโรงงานและคลังสินค้าของ Vina Kraft Paper เช่น การทยอยเปลี่ยนรถโฟลค์ลิฟท์ดีเซล เป็นรถโฟลค์ลิฟท์ไฟฟ้า (EV Forklift) เพื่อลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนมุ่งสู่เป้าหมาย Net Zero และศึกษาความคุ้มค่าในการลดต้นทุนโลจิสติกส์

นายชวนินทร์ บัณฑิตกฤษดา ประธานเจ้าหน้าที่บริหารร่วม SJWD กล่าวว่า ขณะที่การเซ็นสัญญากับ เอ.เจ.พลาสท์ (เวียดนาม) จะขยายบริการแบบ End-to-End Supply Chain & Financial Solution เพื่อรองรับการขยายโรงงานเฟส 2 โดยจะให้บริการขนย้ายเครื่องจักรจากโรงงาน เอ.เจ.พลาสท์ ในประเทศไทยมายังเวียดนามด้วยการขนส่งทางเรือ บริการติดตั้งเครื่องจักร รวมถึงเป็นผู้บริหารคลังสินค้าในโรงงานเฟส 2 หลังจากติดตั้งเครื่องจักรแล้วเสร็จและเริ่มการผลิต โดยมี Transimex Corporation พาร์ทเนอร์ด้านโลจิสติกส์ของบริษัทฯ ในเวียดนาม ร่วมให้บริการเคลื่อนย้ายเครื่องจักรออกจากตู้คอนเทนเนอร์และการขนส่งในเวียดนาม

นอกจากนี้ เอสซีจี เจดับเบิ้ลยูดี โลจิสติกส์ (เวียดนาม) มีแผนเจรจาเพื่อขยายการให้บริการแก่ เอ.เจ.พลาสท์ (เวียดนาม) ที่มีแผนก่อสร้างคลังสินค้าหลังใหม่ โดยจะเป็นผู้ลงทุนและก่อสร้างคลังสินค้าแห่งใหม่ในรูปแบบ Built-to-Suit ตามความต้องการของลูกค้า เพื่อส่งมอบหรือให้เช่าระยะยาว พร้อมรับบริหารคลังสินค้าและให้บริการโลจิสติกส์

“บริษัทฯ กำลังรุกขยายบริการในรูปแบบ End-to-End Supply Chain & Financial Solution ในเวียดนาม เพื่อตอบสนองความต้องการเฉพาะของลูกค้าแต่ละราย ช่วยเพิ่มรายได้ต่อโปรเจกต์ นอกจาก เอ.เจ.พลาสท์ (เวียดนาม) ที่ได้รับงานใหม่ กำลังเจรจากับลูกค้าอีกรายในเวียดนาม คาดว่าจะได้ข้อสรุปครึ่งปีหลังของปีนี้” นายชวนินทร์ กล่าว

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (10 เม.ย. 68)

Tags: , , , , , ,
Back to Top