
มาตรการภาษีศุลกากรตอบโต้ (Reciprocal Tariff) ของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ เริ่มมีผลบังคับใช้แล้วในวันนี้ (9 เม.ย.) ซึ่งจะเป็นการเรียกเก็บภาษีนำเข้าจากประเทศต่าง ๆ ทั่วโลก
การบังคับใช้มาตรการภาษีตอบโต้จะส่งผลให้สินค้าที่นำเข้าจาก 86 ประเทศถูกเรียกเก็บภาษีเพิ่มขึ้นตั้งแต่ 11% ไปจนถึง 84%
ขณะที่จีนจะถูกเรียกเก็บภาษีรวม 104% โดยก่อนหน้านี้ จีนถูกเรียกเก็บภาษีในอัตรา 20% ก่อนที่จะถูกเรียกเก็บเพิ่มอีก 34% และล่าสุดปธน.ทรัมป์ได้ประกาศเรียกเก็บภาษีจากจีนเพิ่มอีก 50% ในนาทีสุดท้ายก่อนที่มาตรการภาษีจะมีผลบังคับใช้ ส่งผลให้ขณะนี้จีนถูกเรียกเก็บภาษีโดยรวมสูงถึง 104%
โลโซโทเป็นประเทศแอฟริกาที่ถูกเรียกเก็บภาษีมากเป็นอันดับสองรองจากจีน โดยสินค้าที่ถูกส่งออกไปยังสหรัฐฯ จะถูกเรียกเก็บภาษีในอัตรา 50% ขณะที่กัมพูชาถูกเรียกเก็บในอัตรา 49%, ลาว 48% และเวียดนาม 46%
ทั้งนี้ มาตรการภาษีศุลกากรตอบโต้จะแตกต่างกันไปเป็นรายประเทศ โดยขึ้นอยู่กับการตั้งกำแพงภาษีและมาตรการที่ไม่ใช่ภาษีของประเทศต่าง ๆ ที่มีต่อสินค้านำเข้าจากสหรัฐ ส่วนภาษีศุลกากรพื้นฐาน 10% ที่เรียกเก็บกับสินค้าจากทุกประเทศที่นำเข้าสู่สหรัฐฯ นั้น มีผลบังคับใช้แล้วตั้งแต่วันที่ 5 เม.ย.
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (09 เม.ย. 68)
Tags: Reciprocal tariff, จีน, ภาษีศุลกากรตอบโต้, สหรัฐ, โดนัลด์ ทรัมป์