หุ้นไทยแนวโน้มดัชนีเช้าปรับลงวิตกสงครามการค้าสหรัฐ-จีน น้ำมันร่วง-บาทอ่อน Flow ไหลออกไม่หยุด

นายวทัญ จิตต์สมนึก ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์กลยุทธ์ บล.พาย กล่าวว่า แนวโน้มตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดดัชนีปรับลง โดยบรรยากาศการลงทุนยังไม่ค่อยดี หลังเมื่อคืนนี้ตลาดหุ้นสหรัฐฟื้นตัวก่อนปรับตัวลง รับข่าวสหรัฐจะเรียกเก็บภาษีศุลกากร 104% ต่อสินค้านำเข้าจากจีน ส่งผลให้มีแรงกดดันมายังตลาดหุ้นเอเชีย โดยตลาดหุ้นญี่ปุ่นเช้านี้ดัชนีปรับตัวลงต่อกว่า 3% ซึ่งจะสร้างแรงกดดันให้ตลาดหุ้นไทย

ขณะเดียวกันเมื่อคืนนี้ราคาน้ำมันดิบก็ปรับตัวลงมามาก สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนมิ.ย. ลดลงประมาณ 2% เป็นปัจจัยกดดันหุ้นกลุ่มพลังงานอีก ประกอบกับค่าเงินบาทเริ่มอ่อนค่า เนื่องจากกระแสเงินทุนไหลออก จากความกังวลมาตรการภาษี และเม็ดเงินจากนักลงทุนต่างชาติยังมีโอกาสไหลออกอีก ซึ่งเมื่อวานนี้นักลงทุนต่างชาติขายประมาณ 2 พันล้านบาท ปัจจัยดังกล่าวยังคงกดดันหุ้นไทยต่อไป

กลยุทธ์การลงทุนระยะสั้น แนะชะลอการลงทุนถือเงินสด รอปัจจัยต่าง ๆ คลี่คลาย เนื่องจากยังมีความเสี่ยงแรงกดดันด้านเศรษฐกิจและสงครามการค้า และยังไร้ปัจจัยบวก

โดยให้กรอบแนวรับ 1,050 จุด แนวรับถัดไป 1,040 จุด และแนวต้าน 1,080 จุด

ประเด็นพิจารณาการลงทุน

  • ตลาดหุ้นนิวยอร์ก (8 เม.ย.) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 37,645.59 จุด ลดลง 320.01 จุด หรือ -0.84% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,982.77 จุด ลดลง 79.48 จุด หรือ -1.57% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 15,267.91 จุด ลดลง 335.35 จุด หรือ -2.15%
  • ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนีนิกเกอิตตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดที่ระดับ 32,529.23 จุด ลดลง 483.35 จุด หรือ -1.46% ดัชนีฮั่งเส็งตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดที่ 19,494.92 จุด ลดลง 632.70 จุด หรือ -3.14% และดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตตลาดหุ้นจีนเปิดที่ 3,110.01 จุด ลดลง 35.54 จุด หรือ -1.13%
  • ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (8 เม.ย.) 1,074.59 จุด ลดลง 50.62 จุด (-4.50%) มูลค่าการซื้อขาย 66,790.73 ล้านบาท
  • นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ (8 เม.ย.) 2,452.01 ล้านบาท
  • ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน พ.ค. (8 เม.ย.) ลดลง 1.12 ดอลลาร์ หรือ 1.85% ปิดที่ 59.58 ดอลลาร์/บาร์เรล
  • ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (8 เม.ย.) 3.44 เหรียญ/บาร์เรล
  • เงินบาทเปิด 34.91 อ่อนค่าต่อเนื่อง มีลุ้นแตะ 35 บาท ท่ามกลางความกังวลนโยบายสหรัฐ
  • “แพทองธาร” รับมือผลกระทบ ภาษีสหรัฐ “ยูเอสทีอาร์” รับนัดเจรจาการค้า “พิชัย” คาดใช้เวลา 10 ปี ปรับสมดุลการค้าสหรัฐ หลังไทยได้ดุลการค้ามากกว่า 15 ปี ดัน 5 แผน เพิ่มนำเข้าสินค้าเกษตร ลดภาษีนำเข้าพุ่งเป้า 100 รายการ ที่อัตราต่ำ สกัดจีนสวมสินค้าไทยส่งออกสหรัฐ เตรียมรับผลกระทบเศรษฐกิจ “จีน” สู้จนถึงที่สุดหลังทรัมป์ขู่ขึ้นภาษีอีก 50% สหรัฐนัด 50 ประเทศ เข้าเจรจา
  • “ดัชนีหุ้นไทย” ดิ่งแรง 50.62 จุด รับผลกระทบภาษีทรัมป์ “ดร.กอบศักดิ์” ชี้มาตรการ 7 เม.ย. ช่วยพยุงได้ชั่วคราว มองหุ้นไทยยังเผชิญความผันผวน ย้ำเร่ง “ความเชื่อมั่น” ลุ้นไม่หลุดระดับ 1,000 จุด ด้านหุ้นต่างประเทศลงแรงเร่งปิดซื้อขายชั่วคราว ห่วงเข้าภาวะตลาดหมี
  • มรสุมปัจจัยลบกระหน่ำ “ท่องเที่ยวไทย” ไตรมาสแรก ฉุดยอดต่างชาติโตต่ำ 2% แต่รายได้ยังบวกเกิน 10% “ททท.” จ่อหารือ กระทรวงท่องเที่ยวฯ ปรับเป้าหมายรายตลาด แต่ยังคงเป้าใหญ่ดึงต่างชาติเข้าไทย 39-40 ล้านคน รุกตลาดอื่นชดเชย “นักท่องเที่ยวจีน” พร้อมแก้เกม ดึงดาราจีนเยือนไทย ไฮไลต์อีเวนต์ใหญ่ฉลอง 50 ปี สัมพันธ์ไทย-จีน ก.ค. หลังความเชื่อมั่น ด้านปลอดภัยทุบยอดไตรมาสแรกหด 24% เดินทางเข้าไทยสะสมแค่ 1.33 ล้านคน
  • สว. ยกโขยงแถลงบี้รัฐบาลถอนร่าง พ.ร.บ.เอนเตอร์เทนเมนต์ คอมเพล็กซ์ แนะทำประชามติคนเอาด้วยหรือไม่ก่อน ขู่หากโหวตรับหลักการ ยื่นสอยจริยธรรม เลขาธิการสภาฯ ป้อง “วันนอร์” ไม่ใช่คนเลื่อนร่างกฎหมาย “เท้ง” ยก 5 เหตุผลค้าน “ปกรณ์วุฒิ” ชี้หากร่าง พ.ร.บ.ถูกตีตก นายกฯ ต้องลาออก-ยุบสภาฯ “โรม”เตือนเป็นตราบาปทุกพรรค หากกฎหมายผ่าน สภาวัฒนธรรมฯ เอาด้วยยื่นค้าน “ภูมิธรรม”ขอฟังจากปาก “อิ๊งค์” ปมเขี่ยพรรคร่วม เผยกฎหมายยกเลิกได้ หากเสียงค้านมีน้ำหนักพอ “สุริยะ”แย้มท่าเรือคลองเตยเหมาะเป็นที่ตั้ง ล่าสุด นายกฯ ประกาศเลื่อนถก พ.ร.บ.ไปสมัยประชุมหน้า ให้เร่งแก้ภาษีทรัมป์ แผ่นดินไหวก่อน “ทักษิณ” ปัดขู่พรรคร่วม ยันล็อกใบอนุญาตไม่มี “วันนอร์” ชี้เป็นเรื่องดี
  • ครม.เห็นชอบร่าง พ.ร.ก.ไซเบอร์ และ พ.ร.ก.การประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล รวม 2 ฉบับ เพิ่มมาตรการแก้ปัญหาอาชญากรรมออนไลน์ และแก๊งคอลเซ็นเตอร์ เผยจะมีผลบังคับใช้วันถัดไป หลังลงประกาศในราชกิจจานุเบกษา
  • “ครม.” เคาะมาตรการอุ้มอสังหาริมทรัพย์ ไฟเขียวลดค่าโอน-จดจำนอง เหลือ 0.01% จนถึงวันที่ 30 มิ.ย.69 สำหรับบ้าน-คอนโดมิเนียมไม่เกิน 7 ล้านบาท
  • วายุภักษ์ สยบความกังวลเทขาย ชี้ผลตอบแทนยังดีถือหุ้นใหญ่ลดลงไม่มากแค่ 4-5% แต่มีปันผลชดเชย 7-8% ทำให้ยังมีสภาพคล่องอยู่ ลั่นเกณฑ์ต้องขายเพื่อถือเงินสดยังอยู่อีกไกล
  • ธนาคารพาณิชย์-ลีสซิ่ง ร่วมรับมือแก้หนี้ ชงปรับวงเงิน “จ่าย ปิด จบ” จาก 5,000 บาท เป็น 1 หมื่นบาท พร้อมเสนอเพิ่มเงื่อนไข “คืนรถจบหนี้” หากวงเงินหนี้คงเหลือไม่เกิน 1 แสนบาท ให้สถาบันการเงินกับ FIDF ร่วมรับผิดชอบคนละครึ่ง ด้านคลังกระชับแผนแก้หนี้ ลุย “คุณสู้ เราช่วย เฟส 2” เปิดลงทะเบียนใหม่ ขยายเกณฑ์ครอบคลุมกลุ่มลูกหนี้มากขึ้น หลังเฟสแรก คนสมัครและผ่านเกณฑ์น้อยกว่าคาด
  • จับตาไตรมาส 2/68 อสังหาฯ ระทึกวิกฤตซ้ำซ้อนทั้งภาษีทรัมป์-แผ่นดินไหว 3 นายกอสังหาฯ ฟันธงลดค่าโอน-จดจำนองบ้านไม่เกิน 7 ล้าน พร้อมปลดล็อก LTV เอาไม่อยู่ ปลายไตรมาสนี้มีระเบิดเวลาดีลจ่ายคืนหนี้หุ้นกู้ ส่อฉุดความเชื่อมั่นซ้ำ จี้รัฐบาลมีมาตรการเสริมสภาพคล่องผู้ซื้อ ปลดล็อกเกณฑ์ปล่อยกู้บ้านมือสองคิดดอกเบี้ยต่ำเท่าบ้านใหม่ ยืดเวลาดอกเบี้ยโปรโมชั่น เป็น 6 ปี ปล่อยผีลดค่าโอน-จำนองทุกราคา “แสนสิริ” แนะแบงก์ปล่อยกู้เพิ่ม 10% กู้วิกฤต

หุ้นเด่นวันนี้

  • CPALL (ลิเบอเรเตอร์) ราคาเป้าหมายเชิงกลยุทธ์ 75 บาท แนวโน้มกำไรไตรมาส 1/68 คาดยังคงปรับตัวขึ้น y-y โดยได้แรงหนุนจาก SSSG คาดยังคงเป็นบวกได้ทั้งร้าน 7-Eleven (+2%), CPAXT (+1%) และ Makro (+1%) ผสาน มาตรการกระตุ้นการบริโภคของภาครัฐฯ เป็นปัจจัยหนุนเพิ่มเติม ขณะที่ปัจจุบันราคาหุ้นเทรดเพียง PE 15.3 เท่า เข้าสู่ระดับที่น่าสนใจในการทยอยสะสม
  • TIDLOR (กสิกรไทย) ราคาพื้นฐานที่ 23.00 บาท เรามีมุมมองเชิงบวกต่อ TIDLOR สำหรับปี 2568 จากการคาดการณ์การลดลงของต้นทุนด้านเครดิตน้อยลงจากปีก่อนหน้าที่ 3.4% จากการปรับกระบวนการติดตามหนี้และการจัดสรรทรัพยากรในการเก็บหนี้ พร้อมทั้งทำการตัดหนี้สูญเชิงรุก (active write-off) ในช่วงปี 2566-2567 ที่ผ่านมา ทำให้ลูกหนี้กลุ่มใหม่ (vintage ใหม่) มีคุณภาพสินทรัพย์ที่ดีขึ้น นอกจากนี้ เราคาดว่าอัตราส่วนต้นทุนต่อรายได้จะลดลงมากกว่าที่ตลาดคาด จากราคารถมือสองที่หยุดปรับตัวลดลงและมีแนวโน้มฟื้นตัวขึ้นในครึ่งแรกของปี 2568 โดยราคารถมือสองปรับตัวเพิ่มขึ้นเป็นเดือนที่ 3 ติดต่อกันนับตั้งแต่เดือนตุลาคมที่ผ่านมา เราแนะนำให้นักลงทุนระยะสั้นซื้อเก็งกำไรจากการคาดการณ์การปิด short position ก่อนวันแลกหุ้น และแนะนำให้นักลงทุนระยะยาวแลกหุ้นสำหรับการลงทุนใน TIDLOR Holding ต่อเนื่อง จากระดับ valuation ที่อยู่ในระดับ P/E ประมาณ 9 เท่ากรอบ
  • ADVANC(ไอร่า) “ซื้อเก็งกำไร” คาดผลการดำเนินงานปี 2568 ยังคงเติบโตแข็งแกร่ง จากต้นทุนค่าเสื่อมราคาที่ลดลง และการบริหารจัดการต้นทุนที่ดีขึ้น ประกอบกับการที่ธุรกิจให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ ธุรกิจอินเทอร์เน็ตความเร็วสูง และธุรกิจดิจิทัล เซอร์วิส ถือเป็นโครงสร้างพื้นฐานที่มีความจาเป็น คาดจะสามารถรับมือกับความผันผวนจากประเด็นการปรับขึ้นภาษีนำเข้าของสหรัฐฯ ได้ โดย ADVANC อยู่ระหว่างจะประมูลคลื่นเพิ่มเติมจาก กสทช ในช่วงกลางปี 2568 ซึ่งคาดว่าจะมีราคาลดลงจากเดิม เราคาดผลตอบแทนจากเงินปันผลยังอยู่ในระดับที่น่าสนใจที่ 4.2-4.3% ต่อปี

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (09 เม.ย. 68)

Tags: , , ,
Back to Top