สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 4 ปีในวันอังคาร (8 เม.ย.) เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลว่าสงครามการค้าที่ทวีความรุนแรงมากขึ้นระหว่างสหรัฐฯ และจีน จะส่งผลให้เศรษฐกิจเข้าสู่ภาวะถดถอยและทำให้ความต้องการใช้พลังงานอ่อนแอลง
- ทั้งนี้ สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนพ.ค. ลดลง 1.12 ดอลลาร์ หรือ 1.85% ปิดที่ 59.58 ดอลลาร์/บาร์เรล
- ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนมิ.ย. ลดลง 1.39 ดอลลาร์ หรือ 2.16% ปิดที่ 62.82 ดอลลาร์/บาร์เรล
เจ้าหน้าที่ทำเนียบขาวยืนยันว่า สหรัฐฯ จะเรียกเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากจีนในอัตรา 104% ในวันพุธที่ 9 เม.ย. เวลา 00.01 น.ตามเวลาสหรัฐฯ หรือตรงกับเวลา 11.01 น.ตามเวลาไทย
ทั้งนี้ จีนประกาศเรียกเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากสหรัฐฯ ในอัตรา 34% โดยเริ่มมีผลตั้งแต่วันที่ 10 เม.ย. เพื่อตอบโต้ปธน.ทรัมป์ที่เรียกเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากจีนในอัตรา 34% ซึ่งเมื่อรวมกับมาตรการเรียกเก็บภาษีที่สหรัฐฯ บังคับใช้กับจีนที่ระดับ 20% จะทำให้จีนต้องเผชิญกับอัตราภาษีรวมจากสหรัฐฯ สูงถึง 54%
ต่อมาปธน.ทรัมป์ให้เวลารัฐบาลจีนจนถึงวันอังคารที่ 8 เม.ย.ในการยกเลิกมาตรการเรียกเก็บภาษีศุลกากร 34% กับสหรัฐฯ มิฉะนั้นจีนจะถูกสหรัฐเรียกเก็บภาษีเพิ่มเติมอีก 50% ซึ่งจะทำให้จีนถูกเรียกเก็บภาษีรวมจากสหรัฐฯ สูงถึง 104%
อย่างไรก็ดี ล่าสุดจีนยืนยันว่าจะต่อสู้จนถึงที่สุด และจีนจะไม่ยกเลิกการเรียกเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากสหรัฐฯ ในอัตรา 34%
ธนาคารเอชเอสบีซี (HSBC) ปรับลดคาดการณ์ความต้องการใช้น้ำมันทั่วโลกในปี 2568 ลงจากเดิม 1 ล้านบาร์เรล/วัน เหลือ 0.9 ล้านบาร์เรล/วัน โดยอ้างอิงถึงผลกระทบของมาตรการภาษีศุลกากร และการที่กลุ่มโอเปกพลัสตัดสินใจเร่งแผนเพิ่มกำลังการผลิต โดยเตรียมเพิ่มการผลิตในเดือนพ.ค.เป็น 411,000 บาร์เรล/วัน จากแผนเดิมที่ 135,000 บาร์เรล/วัน
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (09 เม.ย. 68)
Tags: WTI, น้ำมัน WTI, ราคาน้ำมัน