มาเลเซียวอนอาเซียนใจเย็น-ร่วมมือกันรับมือภาษีสหรัฐฯ

อันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีมาเลเซียและประธานอาเซียนประจำปี 2568 ออกแถลงการณ์เรียกร้องประเทศต่าง ๆ ในอาเซียนร่วมกันต่อสู้กับความท้าทายจากการเรียกภาษีศุลกากรเป็นวงกว้างของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ โดยระลึกถึงประวัติศาสตร์ที่มีร่วมกัน

อันวาร์กล่าวในพิธีเปิดการประชุมการลงทุนอาเซียน ณ กรุงกัวลาลัมเปอร์ ว่า “ภาษีศุลกากรของทรัมป์ไม่ใช่ความท้าทายครั้งแรกต่อระบบพหุภาคี และจะไม่ใช่ครั้งสุดท้าย” และเน้นย้ำให้อาเซียน “ใจเย็น” และรักษาจิตวิญญาณของแนวคิดปฏิบัตินิยม (pragmatism) และความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันเอาไว้ ในฐานะ “ผู้เชื่อมั่นกลุ่มสุดท้ายที่เชื่อว่า โลกจะดีขึ้นได้ถ้าทุกฝ่ายร่วมมือกัน”

นอกจากนี้ เขายังเรียกร้องให้อาเซียนระลึกไว้ว่า ทางกลุ่มเคยเผชิญกับความท้าทายที่รุนแรงกว่านี้ตลอดประวัติศาสตร์ 57 ปีที่ผ่านมา

ทั้งนี้ อาเซียนเป็นผู้ส่งออกสินค้ารายใหญ่เป็นอันดับ 4 ไปยังสหรัฐฯ รองจากแคนาดา เม็กซิโก และจีน นอกจากนี้ สหรัฐฯ ยังเป็นคู่ค้ารายใหญ่อันดับ 2 ของอาเซียน โดยมีมูลค่ารวม 3.96 แสนล้านเหรียญสหรัฐ ในปี 2566 หรือคิดเป็น 11.2% ของการค้าทั้งหมดของอาเซียนกับทั่วโลก

สหรัฐฯ ประกาศเรียกเก็บภาษีศุลกากรที่สูงที่สุดในภูมิภาคกับกัมพูชาในอัตรา 49% ลาว 48% และเวียดนาม 46% ขณะที่มาเลเซียเผชิญภาษีศุลกากรที่ 24% จากสหรัฐฯ

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (08 เม.ย. 68)

Tags: , ,
Back to Top