ฮ่องกงเดินหน้าขยายข้อตกลงการค้าเสรี รับมือมาตรการภาษีทรัมป์

จอห์น ลี ผู้บริหารสูงสุดของเขตบริหารพิเศษฮ่องกง เปิดเผยในวันนี้ (8 เม.ย.) ว่า ฮ่องกงจะทำข้อตกลงการค้าเสรีเพิ่มเติมกับหลายประเทศ เพื่อกระจายความเสี่ยงจากความขัดแย้งทางการค้า หลังสหรัฐฯ ประกาศมาตรการภาษีที่สร้างความปั่นป่วนให้ระบบการค้าระหว่างประเทศ

ลีกล่าวต่อสื่อมวลชนว่า สหรัฐฯ ไม่ได้ยึดมั่นในหลักการค้าเสรีอีกต่อไป และกำลังบ่อนทำลายกฎกติกาการค้าระดับโลกที่ทุกประเทศยอมรับร่วมกัน ซึ่งพฤติกรรมเช่นนี้กำลังสร้างความเสียหายต่อระบบการค้าพหุภาคีทั่วโลก

อย่างไรก็ดี แม้ฮ่องกงจะเผชิญผลกระทบระยะสั้นจากมาตรการภาษีของสหรัฐฯ ในฐานะศูนย์กลางการค้าระหว่างประเทศ แต่ลียืนยันว่า ฮ่องกงจะยังคงสถานะเขตท่าเรือเสรีต่อไป และยังไม่มีแผนจะใช้มาตรการตอบโต้ทางภาษีกับสหรัฐฯ ในขณะนี้

ทั้งนี้ เพื่อบรรเทาผลกระทบจากสถานการณ์ที่เกิดขึ้น ฮ่องกงจะเร่งขยายความร่วมมือทางการค้าและธุรกิจกับภูมิภาคอื่น ๆ โดยเฉพาะเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และตะวันออกกลาง พร้อมจัดตั้งสำนักงานการค้าแห่งใหม่ในอียิปต์ ตุรกี และกัมพูชา

ขณะเดียวกัน ฮ่องกงอยู่ระหว่างการเจรจาข้อตกลงด้านการลงทุนกับซาอุดีอาระเบีย บังกลาเทศ และเปรูด้วย โดยลีเสริมว่า ฮ่องกงตั้งเป้าดึงดูดบริษัทและเงินทุนต่างชาติให้เข้ามาตั้งฐานในฮ่องกง โดยชูจุดแข็งด้านความมั่นคงและเสถียรภาพสำหรับนักลงทุน

สำหรับสินค้าจากฮ่องกงที่ส่งออกไปยังสหรัฐฯ นั้น ถูกเรียกเก็บภาษีนำเข้ารวม 54% ซึ่งแบ่งเป็นอัตราภาษีเดิม 20% และภาษีเพิ่มเติมอีก 34% ที่ทรัมป์เพิ่งประกาศใช้ โดยเป็นอัตราเดียวกันกับจีน เนื่องจากสหรัฐฯ ไม่ได้มองว่าฮ่องกงเป็นเขตเศรษฐกิจแยกต่างหาก ภายหลังการบังคับใช้กฎหมายความมั่นคงแห่งชาติในฮ่องกง

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (08 เม.ย. 68)

Tags: , , ,
Back to Top