
ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ ได้สั่งการเมื่อวันจันทร์ (7 เม.ย.) ให้คณะกรรมการหน่วยงานรัฐบาลกลางทบทวนแผนการเข้าซื้อกิจการยูเอส สตีล (U.S. Steel) มูลค่า 1.41 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ ของนิปปอน สตีล (Nippon Steel) ผู้ผลิตเหล็กรายใหญ่จากญี่ปุ่น ซึ่งก่อนหน้านี้เคยถูกระงับไว้
ในบันทึกคำสั่งประธานาธิบดีที่เผยแพร่โดยทำเนียบขาว ทรัมป์ระบุว่า การทบทวนครั้งนี้มีจุดมุ่งหมายเพื่อช่วยให้เขาตัดสินใจได้ว่าควรมีมาตรการเพิ่มเติมใด ๆ หรือไม่ พร้อมสั่งการให้คณะกรรมการการลงทุนจากต่างประเทศในสหรัฐฯ (CFIUS) จัดทำข้อเสนอแนะภายในระยะเวลา 45 วัน
บันทึกดังกล่าวระบุว่า ข้อเสนอแนะต้องอธิบายว่ามาตรการที่เสนอโดยบริษัทผลิตเหล็กทั้งสองรายนี้ จะเพียงพอในการลดความเสี่ยงด้านความมั่นคงแห่งชาติหรือไม่ ซึ่งคณะกรรมการชุดก่อนในยุคของอดีตประธานาธิบดีโจ ไบเดน เคยระบุไว้ก่อนหน้านี้
เอกสารที่ส่งถึงสมาชิกคณะกรรมการชุดปัจจุบัน ซึ่งรวมถึงโฮเวิร์ด ลุตนิก รัฐมนตรีกระทรวงพาณิชย์ และมาร์โก รูบิโอ รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ ระบุว่า การทบทวนในครั้งนี้จะเริ่มต้นใหม่ทั้งหมด
สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า ความเคลื่อนไหวล่าสุดนี้เกิดขึ้นหลังจากทาคาฮิโระ โมริ รองประธานนิปปอน สตีล ได้เข้าพบกับลุตนิกเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยให้คำมั่นว่าจะเพิ่มการลงทุนของบริษัทญี่ปุ่นในโรงงานของยูเอส สตีล ซึ่งอาจทำให้สถานการณ์ที่ชะงักงันเกี่ยวกับแผนการซื้อกิจการคลี่คลายลง
ทั้งนี้ หลังจากทรัมป์ประกาศคำสั่งดังกล่าว ราคาหุ้นของยูเอส สตีล ในตลาดหุ้นนิวยอร์กก็ปรับตัวสูงขึ้น สวนทางกับตลาดหุ้นทั่วโลกที่กำลังผันผวนหนักจากความกังวลเรื่องมาตรการภาษีการค้าระลอกใหม่ของทรัมป์ ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจโลก
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (08 เม.ย. 68)
Tags: ยูเอส สตีล, โดนัลด์ ทรัมป์