ตลาดหุ้นไทยต้นภาคเช้าร่วงลงแรง 50 จุด เกือบ 5% ตามคาด รับผลกระทบจากมาตรการภาษีของนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐ หลังจากจีนออกมาตรการตอบโต้ กังวลสงครามการค้ารุนแรง รวมทั้งราคาน้ำมันดิบดิ่งลงต่ำสุดในรอบ 4 ปี ทำให้มีแรงขายหุ้นใหญ่ กลุ่มแบงก์ พลังงาน และ GULF
เมื่อเวลา 9.57 น. ดัชนี SET เปิดร่วงลง 49.10 จุด มาที่ 1,076.11 จุด (-4.36%) จากนั้นลงต่อไปกว่า 52 จุด ก่อนจะเด้งกลับขึ้นมาได้
ล่าสุด เมื่อเวลา 11.00 น. ดัชนี SET ร่วงลงต่อ 61.83 จุด มาที่ 1,063.38 จุด (-5.49%)
นายอภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล ผู้อำนวยการอาวุโส สายงานวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์ บล.ทิสโก้ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเปิดมาร่วงไปกว่า 50 จุด ลงแรงมากกว่าคาดชดเชยเมื่อวานนี้ที่หยุดทำการไปขณะที่ตลาดโลกปรับตัวลงแรงจากความกังวลมาตรการภาษีศุลกากรของนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐ หลังจากจีนออกมาตรการตอบโต้ ทำให้ประเด็นสงครามการค้ารุนแรงมากขึ้น เป็นความเสี่ยงต่อเศรษฐกิจโลก ประกอบกับ ราคาน้ำมันดิบดิ่งลงหนักมาแตะจุดต่ำสุดในรอบ 4 ปี เป็นดาวน์ไซด์ต่อเศรษฐกิจและกำไรบริษัทจดทะเบียนในไทยด้วย
แม้ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) จะออกมาตรการชั่วคราวมาลดความผันผวนด้วยการปรับเกณฑ์ซิลลิ่ง-ฟลอร์ และห้ามขายชอร์ต แต่ยังมองภาพรวมดัชนีแนวโน้มเป็นไซด์เวย์ดาวน์ อาจมีจังหวะซื้อกลับลักษณะ Bottom Fishing หรือหากทรัมป์เปิดเจรจาภาษีกับบางประเทศ แม้ไม่ใช่ไทย ดัชนีก็อาจมีจังหวะดีดกลับได้
กลยุทธ์สำหรับนักลงทุนที่รับความเสี่ยงสูง เป็นจังหวะเก็งกำไรได้ แต่ต้องมีจุด Cut loss ขณะที่ระยะกลาง-ยาว เป็นจังหวะสะสม โดยแนะนำกลุ่ม Domestic สื่อสาร โรงพยาบาล หุ้นปันผล และค้าปลีก
พร้อมทั้งให้กรอบแนวรับ 1,050 จุด และแนวต้าน 1,100 จุด
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (08 เม.ย. 68)
Tags: SET, SET Index, ตลาดหุ้น, หุ้นไทย