เมื่อเวลา 10.56 น. BGRIM ลบ 2.45% หรือลดลง 0.25 บาท มาที่ 9.95 บาท มูลค่า 44.32 ล้านบาท จากราคาเปิด 10.10 บาท ราคาสูงสุด 10.20 บาท ราคาต่ำสุด 9.85 บาท
GPSC ลบ 1.94% หรือลดลง 0.50 บาท มาที่ 25.25 บาท มูลค่า 97.33 ล้านบาท จากราคาเปิด 25.50 บาท ราคาสูงสุด 25.75 บาท ราคาต่ำสุด 24.90 บาท
บล.ลิเบอเรเตอร์ ระบุว่า มติคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวานนี้ให้กำหนดราคาค่าไฟฟ้าเดือน พ.ค.-ส.ค.ลดลงเหลือไม่เกิน 3.99 บาท/ หน่วย จากงวดก่อนหน้า 4.15 บาท/ หน่วย โดยให้การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ยังคงรับภาระหนี้ส่วนต่างดังกล่าว
พร้อมให้คณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) กับ กฟผ. ร่วมกันศึกษาแนวทางแก้ไขสัญญา Adder และ FIT ให้มีระยะเวลาต่อเนื่องโดยไม่มีกำหนดอายุสัญญา และศึกษาการปรับลดค่าความพร้อมจ่าย (AP) ต้นทุนการก่อสร้างโรงไฟฟ้า และค่าพลังงานไฟฟ้า (EP) ของโรงไฟฟ้า IPP รวมถึงเงื่อนไขข้อตกลงอื่นของ IPP ที่ทำให้รัฐเสียเปรียบ หรือมีภาระค่าใช้จ่ายสูงเกินจริง
และให้สำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน (สนพ.) ศึกษาการปรับโครงสร้างระบบ Pool Gas เพื่อทำให้ราคาก๊าซที่ใช้ในการผลิตไฟฟ้าลดต่ำลงให้ทันรอบค่าไฟเดือน ก.ย.-ธ.ค.68
มุมมองของเรา : การปรับลดค่าไฟจากปัจจุบันที่ 4.15 บาทเหลือ 3.99 บาท/ หน่วยนั้นคาดจะส่งผลกระทบต่อ BGRIM และ GPSC ดังนี้ BGRIM ค่า Ft เปลี่ยนแปลงทุก ๆ 1 สตางค์ จะกระทบต่อกำไร 22 ลบ.ต่อปี ซึ่งการปรับครั้งนี้จะกระทบกำไร 117 ลบ. ช่วงเวลา 4 เดือน ส่วน GPSC ค่า Ft เปลี่ยนแปลงทุก ๆ 1 สตางค์ จะกระทบต่อกำไร 50 ลบ.ต่อปี โดยการปรับครั้งนี้จะกระทบกำไรราว 270 ลบ. ช่วงเวลา 4 เดือน
ส่วนประเด็นการแก้ไขสัญญา AP นั้นคงต้องพิจารณาอีกครั้งว่าจะดำเนินอย่างไร เพราะทุกๆโรงไฟฟ้ายังคงมีสัญญา PPA อยู่ ทำให้ไม่สามารถปรับเปลี่ยนได้ทันที ซึ่งคงต้องให้ กกพ. และกฟผ. ศึกษาแนวทางร่วมกันภายใน 45 วัน เรื่อง Pool Gas คงต้องรอผลการศึกษาจากภาครัฐว่าจะดำเนินอย่างไรต่อ เพราะไม่เช่นนั้นอาจส่งผลกระทบมาถึง PTT ซึ่งหากต้องปรับราคา Pool ลงอีก ซึ่งปีที่ผ่านมาส่งผลกระทบต่อการดำเนินงาน PTT ราว 18,000 ลบ.
สำหรับหุ้นกลุ่มโรงไฟฟ้านั้น นโยบายจากภาครัฐที่ออกมายังเป็นปัจจัยกดดันราคาหุ้นต่อไปจนกว่าจะมีแนวทางที่ชัดเจนอีกครั้ง โดยในส่วน GPSC นั้นมีการปรับวิธีคำนวณกับลูกค้าโดยโครงสร้างรายได้อิงกับ Ft link อยู่ที่ 30% ของรายได้ และยังมีแผนที่จะลดสัดส่วนดังกล่าวลงเพื่อลดปัญหาดังกล่าว
อย่างไรก็ตาม เรามองว่าหากนโยบายรัฐที่ยังไม่ชัดเจนจะยังส่งผลกระทบต่อกลุ่มโรงไฟฟ้าต่อไป เราคงแนะนำ “ลงทุนน้อยกว่าตลาด” สำหรับกลุ่มนี้
ด้าน บล.กรุงศรี มองจิตวิทยาลบต่อกลุ่มโรงไฟฟ้า IPP และ Renewables จากมติลดค่าไฟรอบเดือนพ.ค.-ส.ค.ลงเหลือ 3.99 บาท/หน่วย โดยเราให้น้ำหนักต่อการลดค่าไฟผ่านการลดต้นทุนการผลิตไฟฟ้าของ กฟผ.หรือการให้ กฟผ.รับภาระหนี้เพิ่มเติมบนหนี้ปัจจุบัน 8-9 หมื่นลบ.ซึ่งเทียบกับจุดสูงสุดที่เคยรับภาระ 1.1 แสนลบ. ยังมีช่องว่างเล็กน้อย
ส่วนการปรับสัญญา IPP และ Renewables ยังติดสัญญา PPA และเป็นแนวทางที่ถูกหยิบยกและตีตกหลายครั้ง เราจึงมองความเป็นไปได้ไม่สูงนัก
เลือก GULF เป็น Top pick ของกลุ่มแนะนำ “ซื้อ”ที่ TP25F 56.5 บาท
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (02 เม.ย. 68)
Tags: BGRIM, GPSC, หุ้นไทย