
สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดลบในวันพุธ (26 มี.ค.) เนื่องจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์และการพุ่งขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรเป็นปัจจัยกดดันตลาด อย่างไรก็ดี ราคาทองคำยังคงเคลื่อนไหวที่เหนือระดับ 3,000 ดอลลาร์ เนื่องจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับมาตรการภาษีศุลกากรของรัฐบาลโดนัลด์ ทรัมป์ ทำให้นักลงทุนบางส่วนเข้าซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัย
- ทั้งนี้ สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนเม.ย. ลดลง 3.40 ดอลลาร์ หรือ 0.11% ปิดที่ 3,022.50 ดอลลาร์/ออนซ์
ดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน ปรับตัวขึ้น 0.35% แตะที่ระดับ 104.547 ส่งผลให้สัญญาทองคำซึ่งกำหนดราคาเป็นดอลลาร์นั้น มีราคาแพงขึ้นและไม่น่าดึงดูดใจสำหรับนักลงทุนที่ถือครองสกุลเงินอื่น ๆ
ส่วนอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ อายุ 10 ปี ดีดตัวขึ้นแตะระดับ 4.342% ซึ่งจะเพิ่มต้นทุนค่าเสียโอกาสในการถือครองทองคำ เนื่องจากทองคำเป็นสินทรัพย์ที่ไม่มีผลตอบแทนในรูปดอกเบี้ย
นักวิเคราะห์จากบริษัท Zaner Metals กล่าวว่า ราคาทองคำยังคงเคลื่อนไหวเหนือระดับ 3,000 ดอลลาร์ โดยได้ปัจจัยหนุนจากแรงซื้อสินทรัพย์ปลอดภัย ท่ามกลางความวิตกกังวลเกี่ยวกับผลกระทบของมาตรการภาษีศุลกากรและความเสี่ยงด้านภูมิรัฐศาสตร์ นอกจากนี้ นักวิเคราะห์ยังคาดการณ์ว่าราคาทองคำมีแนวโน้มดีดตัวขึ้นแตะระดับ 3,150 ดอลลาร์
นักลงทุนจับตาการเปิดเผยดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) ของสหรัฐฯ ในวันศุกร์นี้ โดยดัชนี PCE เป็นมาตรวัดเงินเฟ้อที่เฟดให้ความสำคัญ เนื่องจากสามารถตรวจจับการเปลี่ยนแปลงในพฤติกรรมของผู้บริโภค และครอบคลุมราคาสินค้าและบริการในวงกว้างมากกว่าดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI)
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (27 มี.ค. 68)
Tags: COMEX, ทองคำนิวยอร์ก, ราคาทอง, ราคาทองคำ