BOJ มองภาวะเศรษฐกิจปัจจุบันเอื้อต่อการขึ้นดอกเบี้ย

ธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) เปิดเผยรายงานการประชุมประจำเดือนม.ค. ซึ่งระบุว่า กรรมการ BOJ มองสภาพเศรษฐกิจและเงินเฟ้อในปัจจุบันเป็นโอกาสเหมาะสมสำหรับการหารือปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพิ่มเติม

สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า ในการประชุมดังกล่าว คณะกรรมการ BOJ มีมติด้วยคะแนนเสียง 8 ต่อ 1 ให้ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายสู่ระดับ 0.5% ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 17 ปี จากระดับ 0.25%

รายงานการประชุมซึ่งเผยแพร่ในวันนี้ (25 มี.ค.) ระบุว่า กรรมการ BOJ กล่าวในระหว่างการประชุมว่า ตลาดการเงินและตลาดทุนทั่วโลกค่อนข้างมีเสถียรภาพ เนื่องจากตลาดสามารถผ่านพ้นเหตุการณ์สำคัญอย่างการเริ่มต้นของรัฐบาลสหรัฐฯ ชุดใหม่ มาได้อย่างราบรื่น

ทั้งนี้ การประชุมเดือนม.ค.ของ BOJ จัดขึ้นระหว่างวันที่ 23-24 ม.ค. หรือเพียงไม่กี่วันหลังจากโดนัลด์ ทรัมป์ กลับมาดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ

สำหรับในญี่ปุ่นนั้น เงินเฟ้อยังคงมีแนวโน้มที่จะอยู่ในช่วงขาขึ้น ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากการอ่อนค่าของเงินเยน ซึ่งส่งผลกระทบต่ออัตราการเติบโตของค่าจ้างที่แท้จริง ในขณะเดียวกันก็มีความกังวลเพิ่มขึ้นว่า นโยบาย “อเมริกามาก่อน” (America First) ของปธน.ทรัมป์อาจจะเป็นอุปสรรคต่อการค้าเสรี ซึ่งจะส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อเศรษฐกิจโลก

อย่างไรก็ตาม รายงานการประชุมระบุว่า กรรมการคนหนึ่งของ BOJ คาดการณ์ว่านโยบายของรัฐบาลทรัมป์จะส่งผลกระทบต่อญี่ปุ่นในหลายด้าน แต่ถึงกระนั้นก็ตาม เศรษฐกิจญี่ปุ่นมีความยืดหยุ่นมากพอที่จะสามารถต้านทานแรงกดดันได้ในระดับหนึ่ง

ขณะเดียวกัน กรรมการอีกคนหนึ่งของ BOJ ได้เตือนเกี่ยวกับความเสี่ยงที่เงินเฟ้อในสหรัฐฯ จะปรับตัวสูงขึ้นอีก และความขัดแย้งทางการค้าทั่วโลกอาจจะเกิดขึ้นพร้อม ๆ กัน โดยคาซูโอะ อุเอดะ ผู้ว่าการ BOJ ยอมรับว่าการที่ปธน.ทรัมป์ประกาศจะใช้มาตรการต่าง ๆ นั้น ส่งผลให้แนวโน้มเศรษฐกิจตกอยู่ในความไม่ชัดเจน

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (25 มี.ค. 68)

Tags: , , , ,
Back to Top