มัดรวมประเด็น นายกฯ ชี้แจงศึกซักฟอกวันแรก

ในการอภิปรายทั่วไปเพื่อลงมติไม่ไว้วางใจนายกรัฐมนตรีวันแรก ฝ่ายค้านพุ่งเป้าโจมตีน.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ทั้งกรณีค่าไฟฟ้าแพง และถูกกล่าวหาว่ารัฐบาลเอื้อประโยชน์ให้แก่กลุ่มทุนด้านพลังงาน, การแก้ปัญหาฝุ่น PM2.5, สัญญารถไฟฟ้าเชื่อม 3 สนามบิน ตลอดจนการแก้ปัญหาการระบาดของปลาหมอคางดำ

โต้ปมค่าไฟแพง ย้ำชัดรัฐบาลชุดนี้ยังไม่เคยอนุมัติซื้อไฟเพิ่ม

น.ส.แพทองธาร ชี้แจงกรณีที่ฝ่ายค้านอภิปรายว่ารัฐบาลทำให้ค่าไฟฟ้าแพง และเอื้อประโยชน์ให้กับนายทุน และพวกพ้อง โดยยืนยันว่า รัฐบาลชุดนี้ยังไม่เคยอนุมัติซื้อไฟฟ้าเพิ่มกับบริษัทใด รวมถึงการซื้อขายไฟฟ้าจากเขื่อนประเทศเพื่อนบ้านที่ถูกกล่าวหาว่าเอื้อกลุ่มทุน ทั้งนี้ มีข้อมูลสัญญาการซื้อขายไฟฟ้าที่ทำกันมานานหลายปี ก่อนตนจะมาดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ข้อมูลที่ฝ่ายค้านกล่าวอ้าง จึงเป็นข้อมูลที่คลาดเคลื่อนและไม่ถูกต้อง เพราะการอภิปรายกล่าวอ้างดังกล่าวนั้นเป็นผลงานของรัฐบาลชุดอื่น

ส่วนกรณีสัญญารถไฟฟ้าเชื่อม 3 สนามบิน (ดอนเมือง-สุวรรณภูมิ-อู่ตะเภา) นั้น ย้ำว่ารัฐบาลตรวจสอบอยู่ตลอด และขณะนี้ยังอยู่ในขั้นตอนของฝ่ายปฏิบัติ ยังไม่ได้อยู่ในระดับนโยบาย แต่ก็พร้อมน้อมรับคำติชม และทุกความคิดเห็น

ยกปัญหา PM2.5 เป็นวาระแห่งชาติ ทุกฝ่ายต้องร่วมมือกันแก้ไข

นายกรัฐมนตรี ยังชี้แจงถึงการแก้ปัญหาฝุ่น PM 2.5 ว่า รัฐบาลได้ยกเรื่องการแก้ปัญหาฝุ่น PM 2.5 ขึ้นเป็นวาระแห่งชาติ รวมทั้งผลักดันให้เป็นวาระแห่งอาเซียน โดยที่ผ่านมา ค่าฝุ่นลดลงอย่างมากจากมาตรการต่าง ๆ ที่รัฐบาลได้บูรณาการทำงานร่วมกันกับทุกฝ่าย ทั้งกระทรวงต่าง ๆ ข้าราชการ ภาคเอกชน และภาคประชาชน ที่ต่างให้ความร่วมมืออย่างดี จึงทำให้ค่าฝุ่นควันในปีนี้ลดลงอย่างเห็นได้ชัดเมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา

แต่อย่างไรก็ดี รัฐบาลคงไม่สามารถทำให้ปัญหาฝุ่นควันหายไปได้ในทันที อาจจะมีบางวันที่ค่าฝุ่นมากขึ้น แต่เมื่อเฉลี่ยจำนวนวันทั้งหมดก็น้อยลงกว่าปีที่แล้ว ทั้งนี้ รัฐบาลจะดำเนินการแก้ไขปัญหาอย่างต่อเนื่อง และต้องขอความร่วมมือจากทุกภาคส่วนต่อไป

“ปัญหาฝุ่น PM2.5 ไม่ใช่ปัญหาของรัฐบาลชุดใดชุดหนึ่ง หรือของใครคนใดคนหนึ่ง แต่เป็นปัญหาของคนไทยทุกคนที่ต้องร่วมมือกัน เพื่อจะให้เกิดผลในภาพรวม ถือเป็นสิ่งที่สำคัญ และรัฐบาลจะใช้ทุกสรรพกำลัง เพื่อที่จะทำให้ประเทศของเรามีอากาศที่ดีขึ้น คืนอากาศบริสุทธิ์ให้คนไทยทุกคน หากสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรมีข้อแนะนำเพิ่มเติมจากที่รัฐบาลดำเนินการไปแล้ว ก็พร้อมยินดีที่จะรับฟัง” นายกรัฐมนตรี กล่าว

ยันเท่าเทียม “แก้ปัญหาปลาหมอคางดำ” ไม่แบ่งแยกประมงพาณิชย์ VS ประมงพื้นบ้าน

ส่วนกรณีการแก้ปัญหาการระบาดของปลาหมอคางดำนั้น นายกรัฐมนตรี ชี้แจงว่า เป็นปัญหาที่เกิดขึ้นและค้างคาตั้งแต่รัฐบาลก่อน ไม่ใช่เรื่องการสร้างภาพ จัดฉาก หรือแบ่งแยกการทำงานระหว่างกลุ่มประมงพาณิชย์ กับกลุ่มประมงพื้นบ้านอย่างที่ฝ่ายค้านพยายามกล่าวหา

ทั้งนี้รัฐบาลได้ดำเนินการต่อเนื่องตั้งแต่สมัยอดีตนายกรัฐมนตรี นายเศรษฐา ทวีสิน ซึ่งอนุมัติงบกลาง ปี 67 เพื่อดำเนินการ 7 มาตรการควบคุมและกำจัดปลาหมอคางดำ ส่วนปีนี้ ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติเห็นชอบงบกลาง 98 ล้านบาท เพื่อดำเนินการต่อ และรับ 4 ข้อเสนอของเกษตรกร ซึ่งมีการดำเนินการไปแล้วบางเรื่อง และนอกจากเรื่องงบประมาณ มีการแต่งตั้งคณะทำงานเพื่อพิจารณากรอบการช่วยเหลือเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากปัญหาการแพร่ระบาดของปลาหมอคางดำ

“รัฐบาลดำเนินการทุกอย่างโดยไม่มีการแบ่งแยก ซึ่งรัฐบาลมีเป้าหมายเพื่อแก้ไขปัญหาให้พี่น้องประชาชน ไม่ใช่เพื่อกลุ่มผลประโยชน์กลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง รัฐบาลได้ดำเนินข้อเรียกร้องของประชาชน โดยมีเป้าหมายที่แท้จริงเพื่อแก้ไขปัญหาให้ประชาชน” นายกรัฐมนตรี กล่าว

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (25 มี.ค. 68)

Tags: , ,
Back to Top