
ธนาคารกลางมาเลเซียระบุในวันนี้ (24 มี.ค.) ว่า แม้ว่าจะเผชิญความเสี่ยงระยะสั้นจากสงครามการค้าโลกและความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ที่รุนแรงขึ้น แต่มาเลเซียยังคงต้องเดินหน้าปฏิรูปโครงสร้างในระยะยาว เพื่อให้บรรลุเป้าหมายการเป็นประเทศรายได้สูง
ธนาคารกลางคงตัวเลขคาดการณ์การเติบโตทางเศรษฐกิจของมาเลเซียปี 2568 ไว้ที่ระดับ 4.5%-5.5% แม้จะมีปัจจัยเสี่ยงจากภายนอก โดยระบุในเอกสารที่เผยแพร่พร้อมรายงานประจำปี 2567 ว่า อุปสงค์ในประเทศจะเป็นแรงหนุนหลักของเศรษฐกิจ
อับดุล ราชีด กาฟโฟร์ ผู้ว่าการธนาคารกลางมาเลเซีย ระบุในคำนำของรายงานทบทวนเศรษฐกิจและการเงินประจำปี 2567 ว่า การนำพาเศรษฐกิจฝ่าฟันสภาพแวดล้อมที่ซับซ้อนมากขึ้น และมุ่งสู่การเป็นประเทศรายได้สูงนั้น จำเป็นต้องยกระดับความพยายามในการปฏิรูปโครงสร้าง
รายงานคาดการณ์ว่า การส่งออกของมาเลเซียจะขยายตัว 5.2% ในปี 2568 ชะลอตัวลงจากการขยายตัว 5.7% ในปี 2567
ผู้ว่าการฯ ระบุว่า มาเลเซียจำเป็นต้องกระชับความร่วมมือกับประเทศคู่ค้าเดิม แสวงหาตลาดใหม่ และยกระดับขีดความสามารถในการแข่งขัน เนื่องจากกระแสการกีดกันทางการค้าที่เพิ่มขึ้นทั่วโลก ส่งผลให้ภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้มีความเปราะบางต่อการเปลี่ยนแปลงของห่วงโซ่อุปทานโลก
แม้ว่าการตัดลดเงินอุดหนุนน้ำมันเชื้อเพลิงและการขยายขอบเขตภาษีการค้าและภาษีบริการในปีนี้ จะส่งผลให้ราคาสินค้าปรับตัวสูงขึ้นในระยะสั้น แต่ผู้ว่าการฯ ระบุว่า ผลกระทบต่ออัตราเงินเฟ้อพื้นฐานจะอยู่ในวงจำกัดและเป็นเพียงชั่วคราว
ทั้งนี้ รัฐบาลมาเลเซียได้เตรียมงบประมาณรายจ่ายสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในปีนี้ พร้อมทั้งปรับขึ้นเงินเดือนข้าราชการ เพื่อบรรเทาผลกระทบจากการปฏิรูปดังกล่าว
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (24 มี.ค. 68)
Tags: ธนาคารกลางมาเลเซีย, มาเลเซีย