
คาซูโอะ อุเอดะ ผู้ว่าการธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) แถลงต่อรัฐสภาวันนี้ (24 มี.ค.) ว่า หากอัตราเงินเฟ้อพื้นฐานมีแนวโน้มเข้าใกล้เป้าหมายที่ 2% ทางธนาคารจะดำเนินการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย แม้อาจส่งผลให้ขาดทุนจากการถือครองพันธบัตรรัฐบาลญี่ปุ่น (JGB) ในพอร์ตการลงทุนก็ตาม
“เราได้กล่าวไว้ว่าจะทยอยปรับลดมาตรการผ่อนคลายทางการเงิน หากเงินเฟ้อพื้นฐานมีทิศทางเข้าใกล้ระดับ 2%” อุเอดะกล่าว พร้อมย้ำว่า “เป้าหมายนโยบายของเราคือการรักษาเสถียรภาพราคา และการดำเนินนโยบายของเราจะไม่ถูกจำกัดด้วยผลกระทบต่อฐานะการเงินของ BOJ”
เมื่อเดือนธ.ค.ที่ผ่านมา BOJ ได้เปิดเผยประมาณการผลกระทบจากการขึ้นดอกเบี้ยในอนาคต โดยคาดว่าหากอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นปรับขึ้นไปที่ระดับ 2% อาจทำให้ BOJ ขาดทุนสูงถึง 2 ล้านล้านเยน (1.33 หมื่นล้านดอลลาร์)
นอกจากนี้ อุเอดะยังกล่าวว่า หากดัชนีหุ้นนิกเกอิ 225 ปรับตัวลง 1,000 จุด มูลค่าการลงทุนในกองทุน ETF ของ BOJ อาจลดลงถึง 1.8 ล้านล้านเยน
สัปดาห์ที่ผ่านมา BOJ ได้มีมติคงอัตราดอกเบี้ยนโยบาย พร้อมส่งสัญญาณเตือนถึงความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจโลกที่เพิ่มสูงขึ้น โดยชี้ว่า จังหวะการปรับขึ้นดอกเบี้ยครั้งต่อไปจะขึ้นอยู่กับผลกระทบจากการที่สหรัฐฯ อาจปรับขึ้นภาษีนำเข้าเป็นสำคัญ
อย่างไรก็ตาม อุเอดะได้แสดงความกังวลว่า ราคาอาหารที่พุ่งสูงขึ้นและการปรับขึ้นค่าจ้างที่สูงกว่าคาด อาจผลักดันให้อัตราเงินเฟ้อพื้นฐานปรับตัวสูงขึ้น สะท้อนว่า BOJ ยังคงจับตาแรงกดดันด้านราคาภายในประเทศอย่างใกล้ชิด
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (24 มี.ค. 68)
Tags: BOJ, ธนาคารกลางญี่ปุ่น, อัตราดอกเบี้ยนโยบาย, เงินเฟ้อ