
ราคาโลหะอุตสาหกรรมปรับตัวขึ้นในช่วงเช้าวันนี้ (24 มี.ค.) ขณะที่นักลงทุนประเมินความเป็นไปได้ที่ว่ามาตรการภาษีศุลกากรรอบใหม่ของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ นั้น จะบังคับใช้แบบเจาะจงเป้าหมายมากกว่าที่จะบังคับใช้เป็นวงกว้าง
ณ เวลา 10.35 น.ตามเวลาเซี่ยงไฮ้ ราคาทองแดงปรับตัวขึ้น 0.6% แตะระดับ 9,917.50 ดอลลาร์/ตันในตลาดโลหะลอนดอน (LME) ส่วนราคาอะลูมิเนียมดีดตัวขึ้น 0.4% และราคาโลหะประเภทอื่น ๆ ปรับตัวขึ้นเช่นกัน
นอกจากนี้ ราคาแร่เหล็กในตลาดสิงคโปร์ ดีดตัวขึ้น 1.5% แตะระดับ 101.45 ดอลลาร์/ตันในช่วงเช้านี้ หลังจากดิ่งหลุดจากระดับ 100 ดอลลาร์เมื่อวันศุกร์
ปธน.ทรัมป์เตรียมประกาศใช้ภาษีศุลกากรตอบโต้ (Reciprocal Tariffs) ตามที่วางแผนไว้ในวันที่ 2 เม.ย. อย่างไรก็ดี มีการคาดการณ์ว่าภาษีศุลกากรซึ่งจะเรียกเก็บเป็นรายภาคอุตสาหกรรม เช่น ภาษีนำเข้ารถยนต์และเซมิคอนดักเตอร์นั้น มีแนวโน้มว่าจะไม่ประกาศใช้ในเวลาเดียวกัน นอกจากนี้ มีการคาดการณ์ว่าปธน.ทรัมป์จะประกาศใช้มาตรการภาษีแบบเจาะจงเป้าหมายมากกว่าที่จะบังคับใช้เป็นวงกว้างตามที่เขาขู่ไว้ในช่วงที่ผ่านมา
กระแสคาดการณ์ดังกล่าวช่วยให้ตลาดคลายความวิตกกังวล หลังจากที่ก่อนหน้านี้ตลาดตกอยู่ภายใต้แรงกดดันของความหวั่นวิตกว่า มาตรการภาษีศุลกากรของปธน.ทรัมป์จะส่งผลให้บรรดาประเทศที่ตกเป็นเป้าหมายออกมาตรการตอบโต้ ซึ่งจะก่อให้เกิดผลกระทบต่อเศรษฐกิจและอุปสงค์โลหะ
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (24 มี.ค. 68)
Tags: นักลงทุน, ภาษีศุลกากร, มาตราการภาษี, ราคาโลหะ, สหรัฐ, อุตสาหกรรม, โดนัลด์ ทรัมป์