เริ่มแล้ว! ศึกอภิปรายไม่ไว้วางใจ “แพทองธาร” ชำแหละ “ดีลแลกประเทศ”

การประชุมสภาผู้แทนราษฎร ในการพิจารณาญัตติขอเปิดอภิปรายทั่วไปเพื่อลงมติไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีเป็นรายบุคคล ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 151 โดยฝ่ายค้านจะอภิปราย น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เพียงคนเดียว

สำหรับกรอบเวลาการอภิปรายไม่ไว้วางใจ เบื้องต้นกำหนดไว้ระหว่างวันที่ 24 -25 มี.ค.น และนัดลงมติไว้วางใจหรือไม่ไว้วางใจในวันที่ 26 มี.ค. โดยพรรคร่วมฝ่ายค้านได้เวลาอภิปราย 28 ชั่วโมง, คณะรัฐมนตรี และ สส.พรรคร่วมรัฐบาล 7 ชั่วโมง , ประธานในที่ประชุม 2 ชั่วโมง รวมเวลาทั้งหมด 37 ชั่วโมง โดยวันนี้ได้เริ่มประชุมเมื่อเวลาประมาณ 08.00 น. และจะพักการประชุมเวลา 05.30 น. ของวันที่ 25 มี.ค. จากนั้นจะเริ่มประชุมต่อในเวลา 08.00 น. จนถึงเวลา 23.30 น. โดยนัดลงมติในวันที่ 26 มี.ค. เวลา 10.00 น.

อย่างไรก็ดี การประชุมวันที่ 25 มี.ค. หากเวลาการอภิปรายของฝ่ายค้านยังไม่หมด จะขยายวันเพิ่มอีก 1 วัน และขยับวันลงมติไปเป็นวันที่ 27 มี.ค.68

 

นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ สส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคประชาชน ในฐานะผู้นำฝ่ายค้าน กล่าวก่อนเข้าประชุมถึงการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลว่า วันนี้มั่นใจเต็มที่ ซึ่งได้เตรียมตัวมาก่อนหน้านี้แล้ว และรัฐบาลควรจะตอบคำถามว่ามีความพร้อมหรือไม่ และก่อนที่จะเริ่มอภิปราย หากได้เห็นสัญญาณว่ามีการขัดขวาง รัฐบาลก็จะได้รับผลเสียมากที่สุด โดยพรรคประชาชนเตรียมรับมือกับการประท้วงของฝ่ายรัฐบาลไว้แล้ว

“สส.ของพรรคประชาชน แม่นในข้อบังคับ และพร้อมที่จะทำหน้าที่ทุกคน ซึ่งก็ไม่ได้กังวลอะไร และยังเชิญชวนประชาชนให้รับชมการอภิปรายในวันนี้ เพราะมีไฮไลท์ที่ต้องจับตาในหลายประเด็น” ผู้นำฝ่ายค้าน ระบุ

ทั้งนี้ หัวข้อญัตติ “ดีลแลกประเทศ” หมายถึงสิ่งที่ประชาชนต้องสูญเสียไป เป็นต้นทุนของการเสียโอกาส รวมถึงผลประโยชน์ทับซ้อนที่เป็นเงินภาษีของประชาชน ที่ต้องแลกกับการจัดตั้งรัฐบาล ซึ่งถือว่าเป็นดีลแลกประเทศ เพื่อผลประโยชน์ของคนในตระกูลชินวัตร และพรรคร่วมรัฐบาล

ประเด็นที่จะอภิปรายในวันนี้ นอกจากจะเป็นการบริหารงานล้มเหลวของรัฐบาลแล้ว ยังมีเรื่องการทุจริต ระหว่างพรรคร่วมรัฐบาล และการขาดคุณสมบัติของนายกรัฐมนตรี หรือตัวรัฐมนตรี และมีข้อมูลที่ไม่เคยถูกเปิดเผยมาก่อน และมีความเป็นไปได้สูง ที่จะนำไปสู่การถอดถอนนายกรัฐมนตรีได้จริง

นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า มีหลายส่วนที่เกี่ยวข้องกับตระกูลชินวัตรจึงอยากให้ติดตามการอภิปรายใน 2 วันนี้ เพราะถือเป็นสาระสำคัญ ส่วนการอภิปรายจะมีมากกว่า นายทักษิณ ชินวัตร และ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีหรือไม่ ขอใช้คำว่า “คนในตระกูลชินวัตร” จะดีกว่า เพราะครอบคลุมอยู่แล้ว และยืนยันว่าทุกคนที่ถูกพาดพิง จะยืนอยู่บนพื้นฐานของข้อเท็จจริง และมีส่วนสำคัญในการอภิปรายครั้งนี้ เพื่อชี้ให้เห็นว่า การจัดตั้งรัฐบาลไม่ชอบธรรม และเป็นดีลแลกประเทศจริง

ส่วนที่มีการตั้งข้อสังเกตว่า พรรคภูมิใจไทยดีลกับพรรคประชาชน เพื่อหวังผล 44 สส. ในคดีแก้มาตรา 112 นั้น นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า ไม่เกี่ยว เพราะการอภิปรายจะมีการพาดพิงหลายกระทรวง มีรัฐมนตรีหลายคนที่เกี่ยวข้อง และข้อมูลที่นำเสนอ ทุกคนมีเอกสิทธิ์ความเป็นสส.คุ้มครอง ดังนั้นทุกหลักฐานที่เปิดเผยจะนำไปสู่การยื่นขอถอดถอนรัฐมนตรีที่ไม่สามารถตอบข้อชี้แจงได้ เพื่อจะชี้ให้เห็นจุดเริ่มต้นของปัญหา อย่างไรก็ตาม ดีลแลกประเทศ ไม่ได้หมายถึงการพานายทักษิณกลับบ้าน เพราะยังมีอีกหลายประเด็นที่เกี่ยวข้อง

ส่วนการเพิ่มวันอภิปรายนั้น นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า ขึ้นอยู่กับว่าฝั่งรัฐบาลว่าสามารถควบคุมเวลาได้มากน้อยเพียงใด ดังนั้นก่อนเปิดการประชุมในวันนี้ หากมีการตีรวนจากฝั่งรัฐบาล จนทำให้การอภิปรายไม่จบใน 2 วัน ก็ต้องโทษฝั่งรัฐบาล และคาดหวังว่าอยากให้นายกรัฐมนตรีอยู่ตอบคำถามมากที่สุด แต่เชื่อว่านายกฯ คงมีภารกิจครอบครัว คงไม่สามารถกะเกณฑ์ได้ว่าต้องอยู่ฟังอภิปรายกี่ชั่วโมง

ส่วนกรณีที่พรรคฝ่ายค้านให้เวลา ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ในการอภิปรายรัฐบาลนั้น นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า ขอให้รอดูหน้างาน เพราะมีเสียงสะท้อนจากฝั่งรัฐบาล แต่ฝ่ายค้านก็มองว่าให้โอกาสสมาชิกทุกคนอย่างเต็มที่ ไม่ว่าสังกัดพรรคใด หากมีข้อมูลที่จะตรวจสอบฝ่ายตรงข้าม แต่ทางวิปฝ่ายค้านยังไม่เคยเจรจาโดยตรงกับ ร.ต.อ.เฉลิม เพียงแต่ได้รับการประสานในทางอ้อม

 

จับตา “บิ๊กป้อม” อภิปราย 10 นาที

ส่วนกรณีที่จะให้เวลาการอภิปรายของพรรคฝ่ายค้าน 10 นาที แก่ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ได้อภิปรายนั้น นายณัฐพงษ์ กล่าวว่าถือว่าเป็นเวลาที่คุ้มค่า เพราะที่ผ่านมาไม่ได้เห็นบทบาทของ พล.อ.ประวิตร ในสภาฯ มากนัก ถือเป็นอีกหนึ่งช่วงที่น่าติดตาม

 

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (24 มี.ค. 68)

Tags: , , , ,
Back to Top