
ดัชนีดาวโจนส์ฟิวเจอร์ปรับตัวขึ้นกว่า 200 จุดในช่วงเช้าวันนี้ (24 มี.ค.) ขณะที่นักลงทุนจับตาการประกาศมาตรการภาษีศุลกากรตอบโต้ (Reciprocal tariff) รวมทั้งจับตาข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐฯ ในสัปดาห์นี้อย่างใกล้ชิด เพื่อหาสัญญาณบ่งชี้ทิศทางเศรษฐกิจและแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด)
ณ เวลา 07.19 น.ตามเวลาไทย ดัชนีดาวโจนส์ฟิวเจอร์ปรับตัวขึ้น 226 จุด หรือ +0.53% แตะที่ระดับ 42,545 จุด
ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ กล่าวกับผู้สื่อข่าวที่ทำเนียบขาวเมื่อวันศุกร์ (21 มี.ค.) ว่าจะมีการใช้ความยืดหยุ่นต่อแผนการเรียกเก็บภาษีตอบโต้ซึ่งสหรัฐฯ มีกำหนดบังคับใช้ในวันที่ 2 เม.ย. พร้อมกับกล่าวว่าเขามีแผนที่จะพูดคุยกับประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ผู้นำจีน หลังจากที่จีนประกาศเรียกเก็บภาษีสินค้าเกษตรนำเข้าจากสหรัฐฯ เพื่อตอบโต้สหรัฐฯ ที่เรียกเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากจีน
ก่อนหน้านี้ ปธน.ทรัมป์กล่าวว่า วันที่ 2 เม.ย.จะเป็นวันที่สหรัฐฯ เรียกเก็บภาษีตอบโต้ต่อสินค้าที่นำเข้าจากทุกประเทศที่เรียกเก็บภาษีจากสหรัฐฯ และแม้ว่าบางประเทศไม่ได้เรียกเก็บภาษีศุลกากรต่อสินค้าสหรัฐ ฯแต่ได้มีการเก็บภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) ซึ่งประเทศดังกล่าวก็จะถูกสหรัฐฯ เรียกเก็บภาษีตอบโต้เช่นกัน
นักลงทุนจับตาข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ในสัปดาห์นี้ ซึ่งรวมถึง ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตและภาคบริการเดือนมี.ค.จาก S&P Global, ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนมี.ค.จาก Conference Board, ยอดขายบ้านใหม่เดือนก.พ., ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนเดือนก.พ., จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ไตรมาส 4/2567, ดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) เดือนก.พ. และดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนมี.ค.จากมหาวิทยาลัยมิชิแกน
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (24 มี.ค. 68)
Tags: ดาวโจนส์ฟิวเจอร์, ตลาดหุ้น, ตลาดหุ้นนิวยอร์ก