ประธาน ECB เรียกร้องให้รวมกลุ่มการค้ามากขึ้น รับมือเทรดวอร์สหรัฐฯ-ยุโรป

คริสติน ลาการ์ด ประธานธนาคารกลางยุโรป (ECB) เรียกร้องเมื่อวานนี้ (20 มี.ค.) ให้มีการรวมกลุ่มทางการค้ากับประเทศอื่น ๆ มากขึ้น เพื่อลดผลกระทบทางเศรษฐกิจจากความตึงเครียดทางการค้าที่ทวีความรุนแรงขึ้นระหว่างสหรัฐฯ และสหภาพยุโรป (EU)

สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า ในการแถลงต่อคณะกรรมาธิการด้านเศรษฐกิจและการเงินของรัฐสภายุโรปในกรุงบรัสเซลส์นั้น ลาการ์ดระบุว่าความขัดแย้งทางการค้าที่เพิ่มขึ้นอาจทำให้การเติบโตของเศรษฐกิจยูโรโซนชะลอตัวลงถึง 0.5 จุดเปอร์เซ็นต์ และส่งผลให้เงินเฟ้อสูงขึ้น

ลาการ์ดระบุว่า ยูโรโซนซึ่งมีการค้าเสรีสูงและเป็นส่วนหนึ่งของห่วงโซ่อุปทานทั่วโลก โดยเฉพาะกับสหรัฐฯ นั้น มีความเสี่ยงเป็นพิเศษต่อการเปลี่ยนแปลงนโยบายการค้า

จากการวิเคราะห์ของ ECB นั้น หากสหรัฐฯ เรียกเก็บภาษีนำเข้าจากยุโรป 25% จะทำให้การเติบโตทางเศรษฐกิจของยูโรโซนลดลงประมาณ 0.3 จุดเปอร์เซ็นต์ในปีแรก และหากยุโรปตอบโต้ ก็อาจทำให้การชะลอตัวรุนแรงถึง 0.5 จุดเปอร์เซ็นต์

ลาการ์ดเตือนว่าผลกระทบจากภาษีศุลกากรจะรุนแรงที่สุดในปีแรกหลังจากมีผลบังคับใช้ แต่ผลกระทบด้านลบต่อเศรษฐกิจอาจดำเนินต่อไปอีกระยะหนึ่ง

ลาการ์ดยังระบุด้วยว่า นโยบายภาษีของสหรัฐฯ อาจส่งผลกระทบต่อการลงทุนและการส่งออก ซึ่งอาจกระทบแนวโน้มเศรษฐกิจของยูโรโซน โดย ECB คาดการณ์ในเดือนมี.ค.ว่า การเติบโตของเศรษฐกิจยูโรโซนจะอยู่ที่ 0.9% ในปี 2568, 1.2% ในปี 2569 และ 1.3% ในปี 2570

นอกจากนี้ ลาการ์ดระบุย้ำว่า “คำตอบต่อการเปลี่ยนแปลงนโยบายการค้าของสหรัฐฯ ควรเป็นการรวมกลุ่มทางการค้าที่มากขึ้น ไม่ใช่น้อยลง ทั้งกับประเทศคู่ค้าทั่วโลกและภายใน EU เอง”

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (21 มี.ค. 68)

Tags: , , , , ,
Back to Top