
ญี่ปุ่นประกาศในวันนี้ (21 มี.ค.) ว่า ยังคงมุ่งมั่นที่จะกระชับความสัมพันธ์กับสหรัฐฯ แม้จะมีรายงานว่า รัฐบาลประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ อาจยกเลิกแผนขยายกำลังทหารสหรัฐฯ ในญี่ปุ่น เพื่อประหยัดงบประมาณราว 1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ
เก็น นากาทานิ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมญี่ปุ่น แถลงต่อสื่อมวลชนว่า “ไม่มีการเปลี่ยนแปลง” ในแผนความร่วมมือระหว่างสองประเทศที่ได้ตกลงกันไว้ระหว่างการพบปะของนายกรัฐมนตรีชิเงรุ อิชิบะ กับปธน.ทรัมป์ เมื่อเดือนก.พ.ที่ผ่านมา พร้อมเน้นย้ำว่า “เราจำเป็นต้องทุ่มเทมากขึ้นเพื่อเสริมสร้างความแข็งแกร่งของพันธมิตร”
สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า ภายใต้ข้อตกลงด้านความมั่นคงระหว่างสองประเทศ สหรัฐฯ จะจัดส่งกำลังทหารประจำการในญี่ปุ่น โดยส่วนใหญ่ตั้งฐานทัพอยู่ในจังหวัดโอกินาวา ซึ่งมีที่ตั้งใกล้กับไต้หวัน อันเป็นพื้นที่ที่อาจก่อให้เกิดความตึงเครียด เนื่องจากจีนอ้างกรรมสิทธิ์เหนือดินแดนดังกล่าว รวมถึงอยู่ใกล้หมู่เกาะเซนกากุในทะเลจีนตะวันออก
ด้านโยชิมาสะ ฮายาชิ เลขาธิการคณะรัฐมนตรี กล่าวสนับสนุนจุดยืนดังกล่าว ท่ามกลางความกังวลที่เพิ่มขึ้นเกี่ยวกับภัยคุกคามด้านความมั่นคงในภูมิภาค โดยระบุว่า “เราหวังว่าจะได้หารือเกี่ยวกับการยกระดับความสามารถในการปฏิบัติงานร่วมกัน การตอบสนองต่อสถานการณ์ต่าง ๆ ตลอดจนกรอบการบังคับบัญชาและการควบคุมระหว่าง SDF (กองกำลังป้องกันตนเองของญี่ปุ่น) กับกองทัพสหรัฐฯ”
ทั้งนี้ การกลับเข้าดำรงตำแหน่งปธน.สหรัฐฯ ของทรัมป์ในวันที่ 20 ม.ค.ที่ผ่านมา สร้างความกังวลว่า รัฐบาลชุดใหม่ของเขาอาจเพิ่มแรงกดดันให้ญี่ปุ่นต้องแบกรับภาระค่าใช้จ่ายส่วนใหญ่ในการรองรับการประจำการของกองกำลังสหรัฐฯ ในญี่ปุ่น
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (21 มี.ค. 68)
Tags: ญี่ปุ่น, สหรัฐ