
บริษัทไต้หวัน เซมิคอนดักเตอร์ แมนูแฟกเจอริง จำกัด (TSMC) มีความเสี่ยงที่จะสูญเสียสถานะการเป็นบริษัทที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียในแง่ของมูลค่าตลาด ให้กับบริษัทเทนเซ็นต์ (Tencent) เนื่องจากนักลงทุนมุ่งความสนใจไปที่แผนลงทุนด้านปัญญาประดิษฐ์ (AI) ของเทนเซ็นต์
หุ้น TSMC ซึ่งเป็นบริษัทชิปสัญญาจ้างรายใหญ่สัญชาติไต้หวัน ร่วงลงไปแล้ว 13% ในปีนี้ โดยปรับตัวลงตามทิศทางหุ้นบริษัทผลิตชิปทั่วโลก เช่น อินวิเดีย (Nvidia) เนื่องจากความกังวลเพิ่มขึ้นเกี่ยวกับการประเมินมูลค่าที่สูงเกินไปของภาคส่วนนี้
ในทางกลับกัน หุ้นเทนเซ็นต์พุ่งขึ้นกว่า 23% ในปีนี้ ซึ่งช่วยให้ช่องว่างของมูลค่าตลาด (มาร์เก็ตแคป) ระหว่างเทนเซ็นต์และ TSMC ปรับตัวลดลงสู่ระดับประมาณ 1.09 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ซึ่งเป็นช่องว่างที่เล็กที่สุดนับตั้งแต่ปลายปี 2566
ทั้งนี้ แม้หุ้นเทนเซนต์ยังคงอยู่ห่างจากระดับสูงสุดที่เคยทำสถิติไว้ในปี 2564 แต่ก็ทำผลงานได้ดีกว่าบริษัทเทคโนโลยีจีนหลายแห่ง หลังจากที่รัฐบาลจีนออกมาตรการควบคุมบริษัทยักษ์ใหญ่ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา
นอกจากนี้ เทนเซ็นต์ได้ประกาศเมื่อวานนี้ว่า บริษัทมีแผนที่จะเพิ่มการใช้จ่ายจำนวนมากในโครงสร้างพื้นฐานด้าน AI หลังจากรายได้ของบริษัทเติบโตรวดเร็วที่สุดนับตั้งแต่ปี 2566
ส่วนในฝั่ง TSMC นั้น ข้อมูลจากตลาดหลักทรัพย์ระบุว่า กองทุนทั่วโลกได้ลดการถือครองหุ้น TSMC ตั้งแต่วันที่ 24 ก.พ. โดยขายหุ้นสุทธิ 1.904 แสนล้านดอลลาร์ไต้หวัน (5.8 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ) ในช่วงเวลาดังกล่าว
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (20 มี.ค. 68)
Tags: AI, TENCENT, TSMC