
สำนักข่าวซีเอ็นเอ็น (CNN) รายงานในวันพุธ (19 มี.ค.) ว่า สหรัฐฯ อาจยกเลิกแผนขยายกองทัพในญี่ปุ่น ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของความพยายามลดรายจ่ายของกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ (เพนตากอน)
หากรัฐบาลของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เดินหน้ายกเลิกแผนการดังกล่าว อาจส่งผลกระทบต่อกระบวนการปรับบทบาทของกองกำลังสหรัฐฯ ในญี่ปุ่นให้แข็งแกร่งขึ้น ซึ่งมีความสำคัญท่ามกลางความท้าทายด้านความมั่นคงที่เพิ่มขึ้นจากจีนและเกาหลีเหนือ
ทั้งสำนักข่าวซีเอ็นเอ็น และเอ็นบีซี นิวส์ (NBC News) ซึ่งรายงานเกี่ยวกับแผนดังกล่าวเป็นครั้งแรก โดยอ้างอิงเอกสารสรุปของเพนตากอนระบุว่า การยกเลิกแผนดังกล่าวอาจช่วยประหยัดเงินได้ประมาณ 1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ
สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า การยกเลิกแผนดังกล่าวเป็นหนึ่งในทางเลือกที่อยู่ระหว่างการพิจารณาของรัฐบาลทรัมป์เพื่อลดขนาดของรัฐบาลกลาง และปรับโครงสร้างกองบัญชาการรบและสำนักงานใหญ่ทางทหาร
ภายใต้การบริหารของอดีตประธานาธิบดีโจ ไบเดนนั้น สหรัฐฯ และญี่ปุ่นได้ตกลงที่จะปรับปรุงการบังคับบัญชาของกองกำลังสหรัฐฯ ในญี่ปุ่นเพื่อช่วยให้พันธมิตรประสานงานและตอบสนองต่อเหตุการณ์ฉุกเฉินได้ดีขึ้น
ไมค์ โรเจอร์ส ประธานคณะกรรมาธิการกองทัพประจำสภาผู้แทนราษฎร และวุฒิสมาชิกโรเจอร์ วิกเกอร์ ประธานคณะกรรมาธิการกองทัพวุฒิสภา ออกแถลงการณ์ร่วมกันโดยระบุว่า พวกเขามีความ “กังวลมาก” เกี่ยวกับแผนการดังกล่าวของเพนตากอน
ทั้งโรเจอร์สและวิกเตอร์กล่าวว่า “เราสนับสนุนให้สหรัฐฯ ยังคงเป็นผู้นำบนเวทีโลก ดังนั้น เราจะไม่ยอมรับการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในโครงสร้างการรบของเรา หากไม่ได้ผ่านกระบวนการพิจารณาที่เข้มงวดจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง การประสานงานกับกองบัญชาการรบและเสนาธิการร่วม รวมถึงความร่วมมือกับสภาคองเกรส”
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (20 มี.ค. 68)
Tags: ญี่ปุ่น, สหรัฐ, เพนตากอน