ดาวโจนส์ปิดลบ 260.32 จุด กังวลมาตรการภาษี-จับตาประชุมเฟด

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบในวันอังคาร (18 มี.ค.) ท่ามกลางการซื้อขายที่เป็นไปอย่างระมัดระวังก่อนที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) จะแถลงผลการประชุมนโยบายการเงิน นอกจากนี้ ตลาดยังถูกกดดันจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับผลกระทบของมาตรการภาษีศุลกากรของรัฐบาลโดนัลด์ ทรัมป์

  • ทั้งนี้ ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 41,581.31 จุด ลดลง 260.32 จุด หรือ -0.62%,
  • ดัชนี S&P500 ปิดที่ 5,614.66 จุด ลดลง 60.46 จุด หรือ -1.07% และ
  • ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 17,504.12 จุด ลดลง 304.55 จุด หรือ -1.71%

นักลงทุนจับตาผลการประชุมเฟดซึ่งจะมีการประกาศในวันพุธ (19 มี.ค.) ตามเวลาสหรัฐฯ และถ้อยแถลงของเจอโรม พาวเวล ประธานเฟด นอกจากนี้ นักลงทุนยังรอดูรายงานคาดการณ์อัตราดอกเบี้ยนโยบาย (Dot Plot) ของเจ้าหน้าที่เฟด และตัวเลขคาดการณ์เศรษฐกิจซึ่งได้แก่ ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP), อัตราว่างงาน และอัตราเงินเฟ้อ

ตลาดคาดการณ์ว่าเฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 4.25-4.50% ในการประชุมครั้งนี้ และคาดว่าเฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงทั้งสิ้น 0.60% ในปีนี้ แม้เจ้าหน้าที่เฟดหลายคนได้เตือนไม่ให้เฟดปรับอัตราดอกเบี้ยเร็วเกินไป และควรรอดูผลกระทบของมาตรการภาษีศุลกากรที่จะสะท้อนให้เห็นในข้อมูลเศรษฐกิจ ก่อนที่จะทำการเปลี่ยนแปลงนโยบายการเงิน

ทิม กริสกี้ นักกลยุทธ์ด้านพอร์ตการลงทุนจากบริษัท Ingalls & Snyder กล่าวว่า นักลงทุนมีความกังวลอย่างมากเกี่ยวกับความไม่แน่นอนที่ว่า มาตรการภาษีศุลกากรจะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจอย่างไรและเป็นวงกว้างมากแค่ไหน อีกทั้งยังกังวลว่าเฟดจะผ่อนคลายนโยบายการเงินได้มากเพียงใด

ตลาดยังถูกกดดันจากรายงานของกระทรวงแรงงานสหรัฐฯ ซึ่งระบุว่า ดัชนีราคานำเข้าเพิ่มขึ้น 0.4% ในเดือนก.พ. เมื่อเทียบรายเดือน ซึ่งมากกว่าในเดือนม.ค.ที่เพิ่มขึ้น 0.3% และสวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะลดลง 0.1% เนื่องจากต้นทุนสินค้าอุปโภคบริโภคปรับตัวสูงขึ้น

หุ้น 9 ใน 11 กลุ่มที่คำนวณในดัชนี S&P500 ปิดในแดนลบ นำโดยหุ้นกลุ่มบริการด้านการสื่อสารดิ่งลง 2.14% ตามด้วยหุ้นกลุ่มสินค้าฟุ่มเฟือยร่วงลง 1.90% ส่วนหุ้นกลุ่มพลังงานปรับตัวขึ้น 0.22% และหุ้นกลุ่มเฮลธ์แคร์ดีดตัวขึ้น 0.12%

หุ้นอัลฟาเบท (Alphabet) ร่วงลง 2.2% หลังจากอัลฟาเบทประกาศว่าจะซื้อกิจการ วิซ (Wiz) ซึ่งเป็นบริษัทด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์ของอิสราเอล ในวงเงิน 3.2 หมื่นล้านดอลลาร์ ซึ่งเป็นดีลซื้อกิจการครั้งใหญ่ที่สุดของอัลฟาเบท

หุ้นอินวิเดีย (Nvidia) ซึ่งเป็นผู้ผลิตชิปรายใหญ่ของสหรัฐฯ ดิ่งลง 3.35% แม้เจนเซน หวง ซีอีโอของอินวิเดียกล่าวในงาน GTC 2025 ว่า อินวิเดียอยู่ในตำแหน่งที่ดีในการนำร่องสู่การเปลี่ยนแปลงในอุตสาหกรรมปัญญาประดิษฐ์ (AI) นอกจากนี้ ในการประชุมดังกล่าว ซีอีโอของอินวิเดียยังประกาศเปิดตัวชิป Blackwell Ultra

หุ้นเทสลา (Tesla) ร่วงลง 5.34% ปิดที่ระดับ 225.31 ดอลลาร์ หลังจากนักวิเคราะห์ของบริษัท RBC ปรับลดเป้าหมายราคาหุ้นเทสลาลงเหลือเพียง 120 ดอลลาร์ จากเป้าหมายเดิมที่ระดับ 320 ดอลลาร์ โดยระบุถึงการที่เทสลาปรับลดราคารถยนต์ที่ขับเคลื่อนด้วยระบบขับขี่อัตโนมัติแบบสมบูรณ์ (Full Self-Driving) และส่วนแบ่งตลาดรถแท็กซี่ไร้คนขับ (Robotaxi) โดยนับตั้งแต่ต้นปีนี้ ราคาหุ้นเทสลาร่วงลงไปแล้วเกือบ 45%

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (19 มี.ค. 68)

Tags: , , ,
Back to Top