หุ้นไทยปิดเช้าบวก 8.12 จุดรีบาวด์ตามต่างประเทศคลายกังวลเศรษฐกิจสหรัฐถดถอย

SET ปิดเช้านี้ที่ 1,178.32 จุด เพิ่มขึ้น 8.12 จุด (+0.69%) มูลค่าซื้อขายราว 18,673 ล้านบาท นักวิเคราะห์ฯ เผยตลาดหุ้นไทยรีบาวด์ตามตลาดหุ้นต่างประเทศรับปัจจัยบวกตัวเลขค้าปลีกสหรัฐดีกว่าคาดส่งผลคลายกังวลเศรษฐกิจถดถอย บอนด์ยีลด์ปรับลง-เงินดอลลาร์อ่อนค่ารับเงินไหลเข้าตลาดหุ้นเอเชีย ช่วงบ่าย SET ลุ้นทดสอบ 1,182 จุด หากผ่านได้ให้แนวต้านถัดไป 1,197 จุด ส่วนแนวรับ 1,160 จุด

  • ตลาดหลักทรัพย์ฯ ปิดช่วงเช้าวันนี้ 1,178.32 จุด เพิ่มขึ้น 8.12 จุด (+0.69%) มูลค่าซื้อขายราว 18,673 ล้านบาท
  • การซื้อขายช่วงเช้า ดัชนีเช้าปรับตัวขึ้น ทำระดับสูงสุด 1,181.31 จุด และต่ำสุด 1,172.79 จุด

นายกรภัทร วรเชษฐ์ หัวหน้าสายงานวิจัย บล.กรุงศรี กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้รีบาวด์ตามตลาดต่างประเทศที่ได้รับปัจจัยบวกจากตัวเลขค้าปลีกของสหรัฐออกมาดีกว่าคาด ทำให้ตลาดคลายกังวลเศรษฐกิจสหรัฐ โดยมองว่าอาจเป็นการ soft landing แทนที่จะหดตัวรุนแรงอย่างที่กังวลก่อนหน้านี้ ขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ (บอนด์ยีลด์) สหรัฐปรับตัวลง และเงินดอลลาร์อ่อนค่า โดยมีเงินนทุนไหลเข้าตลาดหุ้นเอเชียที่ยัง laggard

ตลาดบ้านเรารับแรงหนุนจากกลุ่มแบงก์และกลุ่มที่ได้รับประโยชน์จากการลงทุนดาต้าเซ็นเตอร์ โดยเฉพาะ Infra Tech ผู้ให้บริการ ผู้จัดวางระบบ

แนวโน้มในช่วงบ่าย ตลาดหุ้นไทยมีลุ้นขึ้นมาทดสอบแนวต้าน 1,182 จุด ซึ่งเป็นเส้นค่าเฉลี่ย 10 วัน หากผ่านไปได้จะเป็นสัญญาณดี ให้แนวต้านถัดไปที่ 1,197 จุด ส่วนแนวรับให้ไว้ที่ 1,160 จุด

นายกรภัทร กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยยังอยู่ใน Deep Value Zone โดยมีหุ้นที่มี P/E 12 เท่าอยู่ 1 ใน 3 หุ้นที่มีผลตอบแทนปันผลสูงกว่า 3% อยู่ครึ่งหนึ่ง และหุ้นที่มี P/BV ต่ำกว่า 1 เท่าอยู่ถึง 60%

ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์

  • KBANK มูลค่าการซื้อขาย 1,580.45 ล้านบาท ปิดที่ 156.50 บาท เพิ่มขึ้น 4.00 บาท
  • BBL มูลค่าการซื้อขาย 1,002.80 ล้านบาท ปิดที่ 147.50 บาท เพิ่มขึ้น 3.00 บาท
  • ADVANC มูลค่าการซื้อขาย 893.31 ล้านบาท ปิดที่ 267.00 บาท เพิ่มขึ้น 8.00 บาท
  • PTT มูลค่าการซื้อขาย 821.08 ล้านบาท ปิดที่ 30.00 บาท เพิ่มขึ้น 0.50 บาท
  • SCC มูลค่าการซื้อขาย 678.76 ล้านบาท ปิดที่ 164.50 บาท ลดลง 5.00 บาท

 

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (18 มี.ค. 68)

Tags: , , ,
Back to Top