
บริษัทญี่ปุ่นมีมติปรับขึ้นค่าจ้างเฉลี่ยกว่า 5% ในปีนี้ นับเป็นการปรับขึ้นค่าจ้างครั้งใหญ่ที่สุดในรอบกว่า 3 ทศวรรษ ถือเป็นข่าวดีสำหรับพนักงานส่วนใหญ่ แม้ยังไม่อาจคาดการณ์ได้ว่าการปรับขึ้นครั้งนี้จะส่งผลให้การใช้จ่ายภาคครัวเรือนเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญหรือไม่
ข้อมูลเบื้องต้นจากสมาพันธ์สหภาพแรงงานญี่ปุ่น (Rengo) ซึ่งเป็นกลุ่มสหภาพแรงงานใหญ่ที่สุดของญี่ปุ่นด้วยจำนวนสมาชิกประมาณ 7 ล้านคน ระบุว่า การปรับขึ้นค่าจ้างพื้นฐานครั้งนี้อยู่ที่ 5.46% ซึ่งนับเป็นการปรับขึ้นอย่างมีนัยสำคัญเป็นปีที่ 3 ติดต่อกัน และมีแนวโน้มจะเป็นการปรับขึ้นสูงสุดในรอบ 34 ปี
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า ภายหลังการเจรจาต่อรองประจำปีระหว่างนายจ้างกับลูกจ้างเสร็จสิ้นลงในสัปดาห์นี้ บริษัทยักษ์ใหญ่หลายแห่งของญี่ปุ่นยอมรับข้อเรียกร้องของสหภาพแรงงานทั้งหมด บางบริษัท อาทิ ฮิตาชิ (Hitachi) ผู้ผลิตเครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์รายใหญ่ ได้ประกาศปรับขึ้นค่าจ้างสูงสุดเป็นประวัติการณ์
อย่างไรก็ตาม บางภาคธุรกิจยังไม่ได้รับการปรับขึ้น และยังคงต้องติดตามดูว่าพนักงานในบริษัทขนาดเล็กจะได้รับผลกระทบอย่างไร
การปรับขึ้นค่าจ้างครั้งใหญ่นี้มีความจำเป็นเพื่อช่วยบรรเทาผลกระทบจากภาวะเงินเฟ้อที่ทำให้ค่าครองชีพพุ่งสูงขึ้น ขณะที่หลายบริษัทมีผลประกอบการทำสถิติสูงสุดจากปัจจัยค่าเงินเยนอ่อน และต้องการรักษาบุคลากรไว้ท่ามกลางภาวะขาดแคลนแรงงาน
ทั้งนี้ เพื่อผลักดันนโยบายเพิ่มค่าจ้างให้เป็นรูปธรรม นายกรัฐมนตรีชิเงรุ อิชิบะ แห่งญี่ปุ่น ได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องหาแนวทางยกระดับค่าจ้างของพนักงานขับรถบรรทุก พร้อมระบุว่า รัฐบาลจะพิจารณามาตรการช่วยให้ธุรกิจขนาดเล็กสามารถผลักภาระต้นทุนไปยังลูกค้าได้ เพื่อให้มีศักยภาพในการจ่ายค่าจ้างที่สูงขึ้น
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (14 มี.ค. 68)
Tags: ค่าจ้าง, ญี่ปุ่น, แรงงาน