LTMH จ่อขายหุ้น IPO 50 ล้านหุ้นเข้า mai ก่อนสงกรานต์ รุก WealthTech หนุนโตก้าวกระโดด

นายธณัฐ เตชะเลิศ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ. แอลทีเอ็มเอช [LTMH] ผู้ดำเนินธุรกิจด้านสื่อด้านการเงิน การลงทุน และธุรกิจ ที่มีสื่อออนไลน์ชื่อดังอย่าง “ลงทุนแมน” เป็นหนึ่งในเรือธงของบริษัทฯ พร้อมด้วย นายสมภพ กีระสุนทรพงษ์ กรรมการผู้อำนวยการ บริษัทหลักทรัพย์ ฟินันเซีย ไซรัส จำกัด (มหาชน) ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงินและผู้จัดการการจัดจำหน่าย และรับประกันการจำหน่าย ร่วมนำเสนอข้อมูลธุรกิจสำหรับการเสนอขายหุ้นสามัญต่อประชาชนเป็นครั้งแรก (IPO) ในตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ (mai) จำนวน 50 ล้านหุ้น ซึ่งคิดเป็น 25% ของจำนวนหุ้นหลังการ IPO โดยคาดว่าจะเสนอขายหุ้น IPO และเข้าตลาดในช่วงก่อนวันสงกรานต์

โดยการนำเสนอข้อมูลในครั้งนี้ มีจุดประสงค์หลักเพื่อให้ผู้ลงทุน สามารถเข้าใจถึงภาพรวมการดำเนินธุรกิจของ LTMH ที่ประกอบด้วย ธุรกิจสื่อและแพลตฟอร์มสื่อ (ออนไลน์) และธุรกิจออฟไลน์ เพื่อเน้นย้ำให้เห็นถึงวิสัยทัศน์ในการสร้างระบบนิเวศทางธุรกิจ (Ecosystem) ที่แข็งแกร่งของบริษัทฯ รวมทั้ง LTMH ยังได้เผยถึงกลยุทธ์การเติบโตของบริษัทฯ ผ่านแผนธุรกิจบริการด้านเทคโนโลยีบริหารความมั่งคั่ง (WealthTech) ภายใต้ชื่อ “WealthX” ที่จะช่วยให้คนไทยสามารถยกระดับทางการเงิน การลงทุนได้มากขึ้นอีกในอนาคต

ด้วยการนำเสนอเนื้อหาที่มีคุณภาพ ทันเหตุการณ์ และการทำเนื้อหาที่มีความซับซ้อนในรูปแบบที่เข้าใจได้ง่ายส่งผลให้จำนวนผู้ติดตาม (Followers) รวมทุกช่องทาง Facebook, Youtube, Instagram, X, Tiktok, Line และ Blockdit จำนวน 4.87 ล้านคน ในปี 2564 เพิ่มขึ้นเป็น 8.32 ล้านคน ในปี 2567 หรือคิดเป็นอัตราการเติบโตเฉลี่ยต่อปี (CAGR) ร้อยละ 19.61 ต่อปี ในช่วงปี 2564 – 2567 ซึ่งมีส่วนสำคัญในการสร้างรายได้ให้แก่บริษัทฯ อย่างต่อเนื่อง

ทั้งนี้ สำหรับปี 2564 – 2567 บริษัทฯ มีรายได้รวมเท่ากับ 118.06 ล้านบาท 173.90 ล้านบาท 225.77 ล้านบาท และ 231.72 ล้านบาท ตามลำดับ คิดเป็นอัตราการเติบโตเฉลี่ยต่อปี (CAGR) 25.20% ในช่วงปี 2564 – 2567 และจากการที่ต้นทุนและค่าใช้จ่ายส่วนใหญ่ของบริษัทฯ เป็นต้นทุนพนักงาน ค่าเสื่อมราคาและค่าตัดจำหน่ายซอฟต์แวร์ ซึ่งเป็นค่าใช้จ่ายคงที่ ไม่ได้เพิ่มขึ้นตามรายได้ที่เพิ่มขึ้น อัตรากำไรต่างๆ จะเพิ่มสูงขึ้นหากมีรายได้เพิ่มขึ้น โดยในปี 2567 บริษัทฯ มีอัตรากำไรขั้นต้นสูงถึง 50.55% และมีอัตรากำไรสุทธิที่ระดับ 15% แสดงให้เห็นถึงความสามารถในการทำกำไรที่สูง และมีศักยภาพในการเติบโตอีกมากในอนาคต

โดยการเข้าระดมทุน และเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ (mai) ทาง LTMH มีวัตถุประสงค์หลัก คือการขยายการดำเนินธุรกิจเทคโนโลยีบริหารความมั่งคั่ง (WealthTech) ของ “WealthX” ที่สถานะปัจจุบัน ได้ทำการยื่นขอใบอนุญาตประกอบธุรกิจหลักทรัพย์ เพื่อประกอบธุรกิจเป็นนายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์ที่เป็นหน่วยลงทุน และตราสารหนี้ ไปแล้วเมื่อวันที่ 6 มกราคม 2568 ที่ผ่านมา และนอกจากนี้ การระดมทุนยังมีจุดประสงค์เพื่อชำระคืนเงินกู้ยืมจากสถาบันการเงิน ที่กู้ยืมมาลงทุนในหุ้น บลจ.ทาลิส และใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในบริษัทฯ และบริษัทย่อยด้วย

การนำเสนอข้อมูลของ LTMH ในครั้งนี้ นอกจากจะสะท้อนให้เห็นถึงรากฐานขององค์กรที่แข็งแกร่งแล้ว ยังแสดงให้เห็นถึงปัจจัยที่จะช่วยทำให้ LTMH สามารถเดินหน้าขยายธุรกิจ เพื่อเพิ่มศักยภาพให้กับบริษัทฯ และสร้างโอกาสทางการเติบโตในอนาคตได้ ผ่านการพัฒนาต่อยอดธุรกิจ WealthTech ที่เป็นนวัตกรรมทางการเงินที่ทันสมัยและเป็นกลุ่มตลาดที่ยังคงมีโอกาสในการเติบโตอยู่ในระดับสูง

นายธณัฐ กล่าวว่า บริษัทได้เห็นโอกาสเข้าธุรกิจ WealthTech ซึ่งมีขนาดใหญ่มากถึง 3.1 ล้านล้านบาท และมีบัญชีส่วนบุคคล 2 ล้านคน โดย LTMH วางเป้าหมายเติบโตในช่วงเริ่มต้น มูลค่าสินทรัพย์ภายใต้การบริหาร (AUM) 4 หมื่นล้านบาท ส่วนแบ่ง 1.31% และ 4.4 หมื่นบัญชี มีส่วนแบ่ง 2.33% ซึ่งมองว่าเป็นเป้าหมายมีความเป็นไปได้ นอกเหนือจากธุรกิจ Media ที่แข็งแกร่งอยู่แล้วซึ่งเป็นรายได้หลักของบริษัท

โดยก่อนหน้านี้บริษัทได้เข้าลงทุน 25% ในบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวมทาลิส จะเป็นบริษัทร่วมทุนที่สามารถรับรู้รายได้และกำไร

ส่วนภาพธุรกิจในอีก 3-5 ปีข้างหน้า ธุรกิจ Media ยังเป็นฐานสำคัญและเติบโต และคาดว่าจะมีมาร์จิ้นสูงุขึ้น ซึ่งมีอัตรากำไรมากกว่า และรายได้ของธุรกิจ Media จะเป็นรายได้ประจำ (Recurring Income) ให้กับบริษัท โดยการกระจายสื่อออนไลน์ผ่าน 6 เพจ

ขณะเดียวกันธุรกิจ Wealth Tech ที่เพิ่งเข้ามาโดยอาศัยความเชี่ยวชาญด้านการตลาด โดยกลุ่มเป้าหมาย อายุ 25-50 ปีที่มีกำลังสะสมความั่งคั่ง คาดจะออกแอปพลิเคชั่นมาให้ใช้ซึ่งอยู่ระหว่างพัฒนาแอปฯอยู่

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (14 มี.ค. 68)

Tags: , , , , , ,
Back to Top