
พลตรี พัชร รัตตกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.หาดทิพย์ [HTC] ตั้งเป้าผลักดันรายได้รวมพุ่งแตะระดับ 15,000 ล้านบาทภายในปี 75 จากเป้าหมายในปีนี้ 8,700 ล้านบาท พร้อมเพิ่มส่วนแบ่งการตลาด (มาร์เก็ตแชร์) เครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์ในพื้นที่ภาคใต้จาก 25% เป็น 30% ในปี 70 และ 35% ในปี 75 ด้วยการรักษาความเป็นผู้นำในตลาดน้ำอัดลมภาคใต้สูงกว่า 80% และสร้างการเติบโตให้กับสินค้าในพอร์ตนอกเหนือจากน้ำอัดลม รวมถึงนำระบบ AI เข้ามาใช้บริหารจัดการต้นทุน
สำหรับแผนธุรกิจในปี 68 ตั้งเป้ารายได้รวมเติบโต 5-7% จากปี 67 ที่มีรายได้ 8,189 ล้านบาท และรักษาอัตรากำไรขั้นต้น (มาร์จิ้น) ในระดับสูงกว่า 40% และรักษามาร์เก็ตแชร์น้ำอัดลมในตลาดภาคใต้ไม่น้อยกว่า 78% แม้การแข่งขันจะรุนแรงมากขึ้น
ในปีนี้บริษัทจะมุ่งเน้นผลิตภัณฑ์เครื่องดื่มที่ไม่มีน้ำตาล ซึ่งมีอัตราการเติบโตที่ค่อนข้างดีและยังมีโอกาสในการเติบโตอีกมาก หลังจากปี 67 ยอดขายเติบโตราว 22% และปีนี้ตั้งเป้าเติบโตอย่างน้อย 27% ขณะที่สัดส่วนยอดขายเพิ่มขึ้นเป็น 6% จากปัจจุบัน 5% ของยอดขายรวม โดยไตรมาส 1/68 บริษัทออกผลิตภัณฑ์ใหม่ โค้ก ซีโร่ กลิ่นวานิลลา และยังมีผลิตภัณฑ์ใหม่ที่เตรียมเปิดตัวเพิ่มอีก
นอกจากนี้ บริษัทตั้งเป้าขยายฐานลูกค้าอย่างน้อย 10% จากการกระจายสินค้าผ่านช่องทางต่าง ๆ ด้านธุรกิจขวดแก้วแบบคืนขวดจะเพิ่มการกระจายสินค้าให้มากขึ้น โดยเฉพาะในพื้นที่ท่องเที่ยว และเกาะต่าง ๆ ให้มากขึ้น รวมทั้งมุ่งเน้นบรรจุภัณฑ์ขนาดเล็กที่ขายได้ดีและรวดเร็วในพื้นที่ท่องเที่ยว และจะเพิ่มการวางตู้เย็นให้มากขึ้นอย่างน้อย 10-15%
ทั้งนี้ บริษัทตั้งงบลงทุนสำหรับปี 68 ไว้ที่ประมาณ 6% ของรายได้รวม หรือประมาณ 500 ล้านบาท เพื่อปรับปรุงโรงงานและไลน์การผลิตให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น
ขณะที่ทิศทางช่วงครึ่งปีแรกของปี 68 เป็นช่วงที่บริษัทจะต้องเร่งดำเนินงานเพื่อเก็บเกี่ยวยอดขายรายได้ให้เร็ว เนื่องจากเป็นช่วง High Season หน้าร้อน และด้วยโมเมนตัมการท่องเที่ยว ทำให้บริษัทจะสามารถสร้างผลการดำเนินได้ดี
“เราเชื่อมั่นว่าปี 68 จะเป็นปีที่ดีอีกปีหนึ่งของหาดทิพย์ โดยจากการศึกษาของธนาคารแห่งประเทศไทยคาดว่าเศรษฐกิจภาคใต้จะขยายตัวมากขึ้นในช่วง 3.1-4.1% จากผลผลิตเกษตรที่กลับมาขยายตัว ขณะที่ภาคการท่องเที่ยวและบริการที่เกี่ยวเนื่อง รวมถึงการผลิตเพื่อส่งออกจะขยายตัวตาม อุปสงค์ต่างประเทศที่ปรับดีขึ้น ทำให้กำลังซื้อของผู้บริโภคปรับตัวดีขึ้นตามไปด้วย
ในฐานะผู้นำตลาดเครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์ในภาคใต้ เราจะเดินหน้าพัฒนาการปฏิบัติการในตลาดให้เข้มแข็งยิ่งขึ้นโดยเฉพาะในช่องทางที่กำลังเติบโตรวดเร็วอย่างกลุ่มโรงแรม ร้านอาหาร และคาเฟ่ (HoReCa) ซึ่งมีความเหมาะสมกับผลิตภัณฑ์ขวดแก้วคืนขวดรุ่นใหม่ของเรา และยังมีโอกาสเติบโตได้อีกมากจากกระแสการลดใช้พลาสติกของลูกค้าและลุดที่ดูพรีเมียมของขวดแก้วซึ่งเป็นบรรจุภัณฑ์ที่คู่แข่งหลักของเราไม่มีนอกจากนี้ เราจะจับมือกับโคคา-โคล่าสร้างความเติบโตจากผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ โดยเฉพาะในกลุ่มผลิตภัณฑ์ไม่มีน้ำตาลซึ่งเติบโตอย่างรวดเร็วต่อเนื่องมาหลายปี และยังคิดเป็นเพียง 5% ของยอดขาย ทั้งหมด ซึ่งหมายถึงยังมีโอกาสในการเติบโตได้อีกมาก โดยล่าสุด ได้มีการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ คือ ‘โค้ก’ ซีโร่ กลิ่นวานิลลา ซึ่งได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี” พลตรี พัชร กล่าว
พลตรี พัชร กล่าวถึงประเด็นการเก็บภาษีน้ำตาลที่มีผลกระทบต่อบริษัทโดยตรงว่า บริษัทจะนำการบริหารจัดการรายได้เข้ามาใช้ โดยกำหนดราคาสินค้าในแต่ละแพ็คเกจ แต่ละประเภท และแบรนด์ให้เหมาะสมกับแต่ละช่องทางการจัดจำหน่าย โดยปัจจุบันยังไม่มีแผนในการปรับขึ้นราคาสินค้า
“เราไม่อยากขึ้นราคาถ้าไม่จำเป็นจริง ๆ แต่ราคาวัตถุดิบก็ขึ้นอย่างต่อเนื่อง สถานการณ์โลกยังค่อนข้างหวั่นไหว จะกระทบต่อราคาต้นทุน เมื่อเราไม่อยากขึ้นราคาสินค้าสิ่งเดียวที่เราทำได้คือการบริหารจัดการรายได้ ณ ตอนนี้ยังไม่แผนปรับขึ้นราคา แต่ถ้าผมจมน้ำปรับแน่นอน”
พลตรี พัชร กล่าวอีกว่า บริษัทให้ความสำคัญกับนโยบายด้านความยั่งยืนเพื่อมุ่งสร้างธุรกิจที่เติบโตควบคู่ไปกับการพัฒนาสังคมและลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม โดยในปีนี้ตั้งเป้าจะเพิ่มสัดส่วนการใช้พลังงานจากแหล่งพลังงานทดแทนให้ได้ถึง 25% ของการใช้พลังงานทั้งหมดในกระบวนการผลิต เพื่อมุ่ง สู่เป้าหมายการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero Emissions) ภายในปี 2593
ส่วนเป้าหมายความยั่งยืนด้านบรรจุภัณฑ์นั้น นอกจากการมุ่งสร้างธุรกิจขวดแก้วให้เติบโตเพื่อลดการพึ่งพาบรรจุภัณฑ์พลาสติกแล้ว บริษัทฯ ยังมุ่งมั่นในการทำงานร่วมกับโคคา-โคล่าและองค์กรพันธมิตรเพื่อ จัดเก็บบรรจุภัณฑ์ในพื้นที่ภาคใต้และนำกลับมารีไซเคิลใช้ใหม่ (Collection for Recycling) โดยในขณะนี้บริษัทฯ กำลังอยู่ในระหว่างการหารือกับโคคา-โคล่าและองค์กรพันธมิตรเพื่อกำหนดเป้าหมายและกรอบระยะเวลาที่เหมาะสม โดยคาดว่าจะเปิดตัวโครงการได้ภายในปีนี้
“ระยะ 10 ปีที่เราตั้งเป้าตามแผนงาน มีปัจจัยระหว่างทางที่ทำให้บริษัทฯ ต้องปรับตัวเพื่อรับกับการเปลี่ยนแปลงมากมาย ซึ่งเราก็สามารถข้ามผ่านสิ่งท้าทายต่างๆ เหล่านั้นมาได้ทุกครั้ง ผมเชื่อมั่นว่ากว่า 55 ปีที่ผ่านมาเป็นบทพิสูจน์แล้วว่า หาดทิพย์จะยืนหยัดทำธุรกิจเคียงคู่กับสังคมภาคใต้และ สังคมไทยด้วยการเติบโตอย่างแข็งแกร่งและรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม ซึ่งเป็นปรัชญาในการดำเนินธุรกิจที่บริษัทฯ ยึดมั่นเสมอมา” พลตรี พัชร กล่าว
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (13 มี.ค. 68)
Tags: HTC, พัชร รัตตกุล, หาดทิพย์