สหรัฐฯ ขาดดุลงบประมาณสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในช่วง 5 เดือนแรกของปีงบ 68

กระทรวงการคลังสหรัฐฯ เปิดเผยในวันพุธ (12 มี.ค.) ว่า ยอดขาดดุลงบประมาณของรัฐบาลสหรัฐฯ ในช่วง 5 เดือนแรกของปีงบประมาณ 2568 (เดือนต.ค. 2567 – เดือนก.พ. 2568) พุ่งแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 1.147 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งรวมถึงการขาดดุลงบประมาณมูลค่า 3.07 แสนล้านดอลลาร์ในเดือนก.พ. ซึ่งเป็นเดือนแรกที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ทำหน้าที่บริหารประเทศแบบเต็มเดือน โดยตัวเลขดังกล่าวเพิ่มขึ้น 4% เมื่อเทียบเป็นรายปี

ยอดขาดดุลในช่วง 5 เดือนแรกของปีงบประมาณ 2568 ซึ่งรวมถึงช่วงเวลาเกือบ 4 เดือนนับจนถึงวันที่ 20 ม.ค. 2568 ภายใต้รัฐบาลของอดีตประธานาธิบดีโจ ไบเดนนั้น สูงกว่าสถิติสูงสุดเดิมที่ระดับ 1.047 ล้านล้านดอลลาร์ในช่วงเดือนต.ค. 2563 – เดือนก.พ. 2564 ซึ่งเป็นช่วงที่รัฐบาลมีการใช้จ่ายสูงในด้านการบรรเทาการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 และรายได้ของรัฐบาลก็เป็นไปอย่างจำกัดในช่วงการแพร่ระบาดดังกล่าว

กระทรวงการคลังระบุว่า ยอดขาดดุลงบประมาณเฉพาะในเดือนก.พ.ปีนี้ เพิ่มขึ้น 1.1 หมื่นล้านดอลลาร์จากเดือนเดียวกันในปี 2567 เนื่องจากรัฐบาลมีค่าใช้จ่ายดอกเบี้ยเงินกู้ ประกันสังคม และสวัสดิการด้านสุขภาพสูงกว่าการเติบโตของรายได้

สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า การขาดดุลดังกล่าวสะท้อนให้เห็นถึงผลกระทบจากการที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ประกาศใช้มาตรการภาษีศุลกากรกับประเทศคู่ค้ารายใหญ่ และจากการที่คณะบริหารของเขาความพยายามลดการใช้จ่ายของรัฐบาลจนถึงขณะนี้

ส่วนรายรับของรัฐบาลในเดือนก.พ.มีอยู่ทั้งสิ้น 2.96 แสนล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 9% หรือ 2.5 หมื่นล้านดอลลาร์เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน แต่ค่าใช้จ่ายในเดือนก.พ.มีอยู่ทั้งสิ้น 6.03 แสนล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 6% หรือ 3.6 หมื่นล้านดอลลาร์จากปีก่อน

คณะกรรมการดูแลงบประมาณของรัฐบาลกลาง (Committee for a Responsible Federal Budget) ซึ่งเป็นกลุ่มเฝ้าระวังด้านการคลัง กล่าวว่า นับจนถึงขณะนี้ การกู้ยืมของรัฐบาลในปีงบประมาณนี้อยู่ที่ประมาณ 8 พันล้านดอลลาร์ต่อวัน

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (13 มี.ค. 68)

Tags: , ,
Back to Top