BGRIM ลบ 4.84% นำกลุ่มโรงไฟฟ้าใหญ่ลง โบรกมองเสี่ยงรัฐกดค่าไฟลงสวนทางต้นทุนก๊าซเพิ่ม

เมื่อเวลา 11.08 น. BGRIM ลบ 4.84% ลดลง 0.60 บาท มาที่ 11.80 บาท มูลค่าซื้อขาย 129.69 ล้านบาท

  • GPSC ลบ 3.28% ลดลง 1.00 บาท มาที่ 29.50 บาท มูลค่าซื้อขาย 114.65 ล้านบาท
  • GULF ลบ 2.04% ลดลง 1.00 บาท มาที่ 48.00 บาท มูลค่าซื้อขาย 293.07 ล้านบาท

บล.ดีบีเอส วิคเคอร์ส ระบุในบทวิเคราะห์ในไตรมาส 4/67 บมจ.บี.กริม เพาเวอร์ (BGRIM) รายงานกำไรสุทธิ 787 ล้านบาท (+70% yoy, +384% qoq) ตามที่เราและตลาดคาดไว้ ได้รับผลจากกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยน (forex gain) จำนวน 1.27 พันล้านบาท

แต่เมื่อพิจารณาผลการดำเนินงานหลัก พบว่า BGRIM ขาดทุนสุทธิ 307 ล้านบาท (เทียบกับกำไร 1.04 พันล้านบาทในไตรมาส 4/66 และกำไร 1.17 พันล้านบาทในไตรมาส 3/67) ผลกระทบมาจาก 1) ฤดูกาลที่ความต้องการไฟฟ้าต่ำ 2) ค่าใช้จ่าย SG&A ที่สูงขึ้นจากโครงการที่เปิดใหม่ 3) การขาดทุนจากการร่วมทุนในบริษัทลูกจากผลกระทบของอัตราแลกเปลี่ยน

ขณะที่ปัจจัยเสี่ยงในอนาคต ประกอบด้วย 1. ราคาค่าไฟฟ้าที่ลดลง: ภาครัฐมีแนวโน้มที่จะลดอัตราค่าไฟฟ้าจาก 4.15 บาท/หน่วย เป็น 3.7 บาท/หน่วย ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อ BGRIM เนื่องจากอัตราค่าไฟฟ้าจะถูกลดลงสำหรับผู้ใช้ที่มีการใช้ไฟฟ้าต่ำ

2. ต้นทุนก๊าซธรรมชาติที่สูงขึ้น: คาดว่าต้นทุนก๊าซธรรมชาติในปี 2568 จะเพิ่มขึ้นเป็น 320-350 บาท/mmbtu เนื่องจากปัญหาการขาดแคลนก๊าซในประเทศและความไม่แน่นอนจากการกำหนดนโยบายในต่างประเทศ

คำแนะนำการลงทุน BGRIM คาดว่าในปี 68 จะมีการเติบโตจากการลงทุนใน Data Centre และธุรกิจพลังงานทดแทน แต่ยังคงมีความเสี่ยงจากการลดอัตราค่าไฟฟ้าและต้นทุนก๊าซธรรมชาติที่เพิ่มขึ้น แม้ว่าในปัจจุบันราคาหุ้นของ BGRIM จะสะท้อนความเสี่ยงบางประการแล้ว แต่เรายังคงคำแนะนำ “ถือ” ราคาเป้าหมายปี 68 ที่ 14 บาท

 

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (10 มี.ค. 68)

Tags: , , , ,
Back to Top