ตลท. หนุนเร่งปฏิรูปกม.เพิ่มประสิทธิภาพกำกับดูแล ลดอุปสรรคธุรกิจ ฟื้นเชื่อมั่นตลาดทุน

นายกิติพงศ์ อุรพีพัฒนพงศ์ ประธานกรรมการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) กล่าวปาฐกถาพิเศษ ในหัวข้อ “กิโยตินกฎระเบียบเพื่อยกระดับความเชื่อมั่นของตลาดทุนไทย” ว่า ตลท.เตรียมเสนอผ่านรมว.คลัง ให้ใช้เครื่องมือทางกฎหมายแบบ Omnibus หรือการพิจาณาแก้กฎหมายอย่างรวดเร็ว เช่นเดียวกับในประเทศอื่น ๆ เพื่อให้กระบวนการแก้ไขกฎหมายทำได้รวดเร็วขึ้น และสามารถแก้ไขไปพร้อมกับสถานการณ์ที่เกิดวิกฤตตลาดทุนไทยได้เลย

ซึ่งปัจจุบันตลาดทุนไทยเผชิญกับแรงกดดันจากปัจจัยภายนอก เชื่อว่าการปฏิรูปกฎหมาย หรือการกิโยตินกฎระเบียบตลาดทุนจะเป็นหัวใจสำคัญ ที่ช่วยสร้างความเชื่อมั่นกลับมาได้ ทั้งนี้การกิโยตินกฎหมาย เป็นการปรับปรุงแก้ไข หรือเพิ่มเติมกฎหมายที่มีอยู่เดิมให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น และสอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วในปัจจุบัน และยังช่วยลดต้นทุน อำนวยความสะดวกให้ประชาชนเพียงอย่างเดียว แต่ยังช่วยสร้างความโปร่งใส ความยุติธรรมในการดำเนินธุรกิจ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุนทั้งไทยและต่างประเทศ

ซึ่งองค์การเพื่อความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการพัฒนา (OECD) เคยมีข้อเสนอแนะในการออกแบบกฎหมายกำกับดูแลตลาดทุนให้มีประสิทธิภาพว่าจะต้องความเข้าใจลักษณะของตลาด มีวัตถุประสงค์ของนโยบายที่ชัดเจน ออกแบบและบังคับใช้เครื่องมือที่เหมาะสม เกิดการบูรณาระหว่างหน่วยงาน และทบทวนปรับปรุงและพัฒนาอย่างต่อเนื่อง

นายกิติพงศ์ กล่าวว่า ขณะเดียวกันควรสร้างความเชื่อมั่นอื่นซึ่งอาจมีการพิจารณาเครื่องมือทางกฎหมาย อื่น เช่น กรณีประเทศสิงคโปร์ และอินโดนีเซียเคยใช้รูปแบบการออกกฎหมายแบบ Omnibus หรือการพิจารณาแก้กฎหมาย ตลาดทุนหลายฉบับในคราวเดียวกันซึ่งจะช่วยให้ผู้ตรากฎหมายมองเห็นปัญหาร่วมที่ชัดเจนของกฎหมายที่เกี่ยวข้องกันทั้งหมด พร้อมกับส่งเสริมความร่วมมือระหว่างภาครัฐและเอกชนในการสร้างนโยบายและกฎหมายที่สอดคล้องกับความต้องการของตลาดทุน รวมทั้งการสร้างความรู้และความเข้าใจเกี่ยวกับกฎหมาย และใช้บังคับกฎหมายอย่างจริงจัง ซึ่งจะช่วยให้สังคมเกิดความเชื่อมั่นว่าผู้กระทำผิดจะได้รับลงโทษอย่างจริง และผู้เสียหายจะได้รับการเยียวยาช่วยเหลืออย่างทันท่วงที

“การปฏิรูปกฎหมายจะช่วยสร้างความเชื่อมั่นให้ตลาดทุน แต่ถือเป็นภารกิจที่ท้าทายที่หากทุกภาคส่วนร่วมมือก็จะช่วยสร้างระบบกฎหมายที่เป็นธรรม โปร่งใส และยืดหยุ่นต่อความเปลี่ยนแปลงในตลาดทุนได้” นายกิติพงศ์ ระบุ

นายกอบศักดิ์ ภูตระกูล ประธานกรรมการสภาธุรกิจตลาดทุนไทย และอุปนายกสมาคมบริษัทจดทะเบียนไทย ให้ความเห็นสอดคล้องกันว่า ตลาดทุนไทยเผชิญความท้าทายจากปัจจัยหลายด้านที่ส่งผลกระทบต่อการเติบโต ไม่ว่าจะเป็นการขาดแคลนธุรกิจใหม่ที่ดึงดูดนักลงทุน และอุปสรรคในด้านกฎระเบียบที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินธุรกิจในตลาดทุนซึ่งกระทบต่อขีดความสามารถในการแข่งขัน ทั้งนี้แม้ว่าตามหลักการกฎหมายกำกับดูแลตลาดทุน มีความสำคัญในการคุ้มครองนักลงทุน ควบคุมความเสี่ยงให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม และรักษาความเชื่อมั่นของตลาด แต่ในขณะเดียวกันการมีกฎหมายที่สร้างต้นทุนเกินสมควรในการประกอบธุรกิจ รวมถึงการขาดกฎหมายที่มีประสิทธิภาพในการกำกับดูแลผู้ประกอบวิชาชีพในตลาดทุน และการเยียวยาผู้ได้รับความเสียหายอย่างทันท่วงทีก็กระทบต่อขีดความสามารถในการแข่งขัน ความน่าเชื่อถือ และประสิทธิภาพของตลาดทุนไทยด้วยเช่นกัน

“ดังนั้นแล้วการปฏิรูปกฎหมายเพื่อสร้างกลไกกำกับดูแลที่มีคุณภาพควบคู่กับการส่งเสริมการแข่งขันในตลาดทุนจึงเป็นหนทางหนึ่งที่จะช่วยยกระดับความเชื่อมั่นและสนับสนุนให้ตลาดทุนไทยสามารถพัฒนาได้อย่างยั่งยืน”นายกอบศักดิ์กล่าว

 

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (07 มี.ค. 68)

Tags: , ,
Back to Top