คุณภาพอากาศในลอนดอนดีขึ้น หลังใช้มาตรการจำกัดยานพาหนะควบคุมมลพิษ

สำนักบริหารมหานครลอนดอน (Greater London Authority – GLA) เปิดเผยรายงานในวันนี้ (7 มี.ค.) ระบุว่า การตัดสินใจขยายเขตควบคุมมลพิษต่ำของกรุงลอนดอนได้ช่วยลดมลพิษทางอากาศ โดยไม่ส่งผลกระทบต่อจำนวนผู้ใช้บริการและการใช้จ่ายของภาคธุรกิจ

GLA ระบุว่า หลังบังคับใช้มาตรการนี้มาเป็นเวลา 1 ปี การจำกัดยานพาหนะที่ปล่อยมลพิษสูงไม่ให้เข้าไปในเขตที่ใหญ่ขึ้นของกรุงลอนดอนช่วยได้ลดการปล่อยมลพิษที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ เช่น ก๊าซไนโตรเจนไดออกไซด์ (NO2) และฝุ่นละอองขนาดเล็กที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพทั่วทั้งเมือง

กฎการควบคุมอากาศสะอาดเริ่มบังคับใช้ครั้งแรกในปี 2562 ในพื้นที่ใจกลางกรุงลอนดอน และขยายครอบคลุมพื้นที่ชานเมืองในเดือนส.ค. 2566 ภายใต้การนำของ ซาดิก ข่าน นายกเทศมนตรีของกรุงลอนดอนจากพรรคแรงงาน โดยผู้ที่ขับรถยนต์เบนซินหรือดีเซลรุ่นเก่าที่ปล่อยมลพิษสูงเข้าไปในเขตควบคุมจะถูกปรับ 180 ปอนด์ (232 ดอลลาร์)

การตัดสินใจดังกล่าวกลายเป็นประเด็นที่มีการถกเถียงกันบางส่วน เนื่องจากประชาชนและภาคธุรกิจในเขตชานเมืองพึ่งพารถยนต์และรถตู้มากกว่า ขณะที่ระบบขนส่งสาธารณะยังไม่ครอบคลุมเท่าที่ควร

การดำเนินนโยบายนี้ถือเป็นการทดสอบความสำเร็จในการบริหารงานของข่าน ซึ่งปัจจุบันดำรงตำแหน่งนายกเทศมนตรีของกรุงลอนดอนเป็นสมัยที่ 3

ทั้งนี้ ข่านระบุเสริมว่า กรุงลอนดอนใกล้จะดำเนินการได้ตามข้อกำหนดทางกฎหมายแล้ว โดยระบุว่า รายงานในวันนี้แสดงให้เห็นว่าเขตควบคุมการปล่อยมลพิษต่ำสุด (Ultra Low Emission Zone – ULEZ) ได้ผล, ช่วยลดระดับมลพิษ, นำรถเก่าที่ปล่อยมลพิษออกจากท้องถนน และทำให้อากาศสะอาดขึ้นสำหรับชาวลอนดอนอีกหลายล้านคน”

 

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (07 มี.ค. 68)

Tags: , , ,
Back to Top