
ซิคามอร์ พาร์ตเนอร์ส (Sycamore Partners) บรรลุข้อตกลงซื้อกิจการวอลกรีนส์ บู๊ทส์ อลิอันซ์ (Walgreens Boots Alliance) ด้วยมูลค่า 1 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ เพื่อนำบริษัทออกจากตลาดหลักทรัพย์ ปิดฉากการเป็นบริษัทมหาชนเกือบศตวรรษของยักษ์ใหญ่ธุรกิจร้านขายยาสหรัฐฯ
มูลค่าดีลครั้งนี้เทียบได้เพียงเศษเสี้ยวของมูลค่า 1 แสนล้านดอลลาร์ที่วอลกรีนส์เคยมีเมื่อสิบปีก่อน ในฐานะเครือข่ายร้านขายยาอันดับ 2 ของสหรัฐฯ ความรุ่งโรจน์ของบริษัทเริ่มร่วงหล่นจากอัตรากำไรธุรกิจยาที่ลดลง พร้อมกับผู้บริโภคที่หันไปซื้อยาและของใช้จากคู่แข่งที่ขายถูกกว่าอย่างอะเมซอน (Amazon) และวอลมาร์ท (Walmart)
ขณะที่คู่แข่งรายอื่นขยายธุรกิจสู่ประกันภัยหรือบริหารใบสั่งยา วอลกรีนส์กลับทุ่มเงินพันล้านดอลลาร์ซื้อกิจการร้านขายยาอื่น ๆ เช่น อลิอันซ์ บู๊ทส์ (Alliance Boots) ในยุโรป ทั้งที่เทรนด์ผู้บริโภคหันไปซื้อสินค้าออนไลน์กันมากขึ้น
ภายใต้ดีลนี้ ซิคามอร์จะจ่าย 11.45 ดอลลาร์ต่อหุ้น สูงกว่าราคาปิดในวันพฤหัสบดีที่ 10.60 ดอลลาร์ ราว 8% ส่งผลให้หุ้นวอลกรีนส์พุ่งขึ้นเกือบ 6% ในการซื้อขายนอกเวลา
ผู้ถือหุ้นวอลกรีนส์มีสิทธิได้รับเงินสดเพิ่มอีก 3 ดอลลาร์ต่อหุ้น หากอนาคตสามารถสร้างรายได้จากหนี้สินและส่วนของผู้ถือหุ้นในวิลเลจเอ็มดี (VillageMD) ผู้ให้บริการดูแลสุขภาพเบื้องต้น
ทั้งนี้ มูลค่าตลาดของวอลกรีนส์ร่วงลง 90% จากปี 2558 เหลือ 9.3 พันล้านดอลลาร์ ณ วันพฤหัสบดี ขณะที่หนี้สินและภาระผูกพันสัญญาเช่าพุ่งขึ้นเกือบแตะ 3 หมื่นล้านดอลลาร์
ธนาคารเพื่อการลงทุน เลียริงก์ พาร์ตเนอร์ส (Leerink Partners) ระบุว่า ธุรกรรมนี้มีมูลค่ารวมราว 2.37 หมื่นล้านดอลลาร์ รวมเงินจ่ายผู้ถือหุ้นและหนี้สิน โดยแหล่งข่าววงในเปิดเผยกับสำนักข่าวรอยเตอร์ว่า ซิคามอร์คำนวณราคาซื้อจากสถานการณ์เลวร้ายที่สุด อิงราคาต่ำสุดที่จะได้หากต้องขายหรือแยกส่วนสินทรัพย์
ทิม เวนท์เวิร์ท ซีอีโอของวอลกรีนส์ ระบุในแถลงการณ์ว่า บริษัทกำลังเดินหน้าพลิกฟื้นธุรกิจ แต่การสร้างมูลค่าต้องใช้ “เวลา สมาธิ และการเปลี่ยนแปลง ซึ่งจะบริหารได้ดีกว่าในฐานะบริษัทเอกชน”
ปัจจุบัน วอลกรีนส์เผชิญปัญหากระแสเงินสดลดลง และกว่าครึ่งของหนี้สินสุทธิ 7 พันล้านดอลลาร์จะครบกำหนดชำระปีหน้า
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (07 มี.ค. 68)
Tags: Sycamore, Walgreens, ซื้อกิจการ, ดอลลาร์สหรัฐ, ตลาดหลักทรัพย์, ตลาดหุ้น