FVC ส่งสัญญาณปี 68 ลุยขยายทั้ง 3 ธุรกิจ จ่อเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ดันรายได้โตยั่งยืน

นายวิจิตร เตชะเกษม กรรมการผู้จัดการ บมจ.ฟิลเตอร์ วิชั่น [FVC] เปิดเผยว่า ทิศทางธุรกิจปี 68 ในกลุ่มธุรกิจอุตสาหกรรมและผู้ประกอบการด้านระบบน้ำ (B1) ยังคงเน้นการรักษาฐานลูกค้าเดิม และจะขยายฐานลูกค้าใหม่ๆ ทั้งในโซนรอบนอกกรุงเทพฯ และปริมณฑล โดยปัจจุบันบริษัทได้รับคำสั่งซื้อจากลูกค้างานโครงการติดตั้งขนาดเล็กและงานบริการ และสัญญาซ่อมบำรุง รวมจำนวน 12 งาน มูลค่ารวม 4.38 ล้านบาท

ส่วนงานในกลุ่มธุรกิจพาณิชย์และที่พักอาศัย จะมุ่งเน้นที่กลุ่มร้านอาหารและเครื่องดื่ม โดยเข้าไปมีส่วนการออกแบบคัดเลือกผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสมสำหรับการใช้งานของลูกค้าเพื่อให้ลูกค้านำผลผลิตที่เกิดจากผลิตภัณฑ์ที่ได้ ไปประกอบอาหารและเครื่องดื่มมีคุณภาพเพื่อทำให้เป็นที่พึงพอใจของผู้บริโภค และมีแผนเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ รองรับกลุ่มลูกค้าที่ต้องการน้ำกรองคุณภาพเฉพาะทาง สำหรับการผลิตอาหาร และเครื่องดื่ม

ด้านกลุ่มธุรกิจบริการทางการแพทย์ (B3) ทั้งของ บมจ.เคที เมดิคอล เซอร์วิส [KTMS] ในปีนี้ตั้งเป้าขยายสาขาและเพิ่มเครื่องไตเทียมอย่างต่อเนื่อง โดยในไตรมาส 1/68 จะเปิดสาขาใหม่ 1 สาขา และเพิ่มเครื่องไตเทียม 4-24 เครื่อง ส่วนบริษัท เนโฟร วิชั่น จำกัด มีแผนเพิ่มเครื่องไตเทียมในไตรมาส 1/68 อีก 2-4 เครื่อง รวมทั้งบริษัท เออร์วิง คอร์ปอเรชั่น จำกัด ปัจจุบันได้รับคำสั่งซื้องานติดตั้งระบบน้ำจากลูกค้าแล้ว 5 โครงการ มูลค่ารวม 6.77 ล้านบาท และงานปรับปรุงหน่วยไตเทียม 2 โครงการ มูลค่า 2.16 ล้านบาท และบริษัท เมดิคอล วิชั่น จำกัด ได้รับคำสั่งซื้องานติดตั้งท่อลมรับ-ส่ง สิ่งส่งตรวจทางการแพทย์จากลูกค้าแล้ว 3 โครงการ มูลค่ารวม 7 ล้านบาท

ขณะที่ภาพรวมเศรษฐกิจไทยในปี 67 ฟื้นตัวและเติบโตอย่างค่อยเป็นค่อยไปประกอบกับปัญหาหนี้ครัวเรือนที่อยู่ในระดับสูง ส่งผลกระทบต่อกำลังซื้อของผู้บริโภคลดลง แต่อย่างไรก็ตามภาครัฐได้มีการออกมาตรการสนับสนุนกระตุ้นเศรษฐกิจทั้งในด้านการแก้ไขปัญหาอัตราเงินเฟ้อ รวมถึงการส่งเสริมการท่องเที่ยว ซึ่งจัดเป็นนโยบายที่เป็นตัวขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ทำให้ภาคเอกชนมีการลงทุนเพิ่มขึ้น จึงส่งผลให้ผลการดำเนินงานงวดปี 67 ของกลุ่มบริษัทฯ มีรายได้จากการจำหน่ายสินค้าและบริการ 1,046.68 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 145.11 ล้านบาท คิดเป็นอัตราการเติบโต 16.10% เทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน (YoY) และมีกำไรส่วนที่เป็นของผู้ถือหุ้นใหญ่ 14.17 ล้านบาท

ปัจจัยหลักจากการเติบโตใน 3 กลุ่มธุรกิจ ได้แก่ 1.กลุ่มธุรกิจอุตสาหกรรมและผู้ประกอบการด้านระบบน้ำ (B1) มีรายได้ 112.62 ล้านบาท ลดลง 12.08% เนื่องจากภาคการผลิตยังคงฟื้นตัวได้ไม่ดีนัก ส่งผลให้การแข่งขันในตลาดยังคงสูงมาก มีการตัดราคาขายของคู่แข่งรวมถึงต้นทุนที่สูงขึ้นจากสินค้าต่างประเทศ แม้บริษัทฯ จะมีการสรรหาผู้ขายจากหลากหลายประเทศเพื่อทดแทน แต่ยังต้องใช้เวลาและสร้างการสื่อสารให้กับลูกค้า ทำให้ผลการดำเนินงานของ B1 ในภาพรวมยังไม่ได้ตามเป้าหมาย

2.กลุ่มธุรกิจพาณิชย์และที่พักอาศัย (B2) มีรายได้ 336.68 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 6.14% เนื่องจากลูกค้าหลักคือร้านสะดวกซื้อ ร้านอาหารและเครื่องดื่มและอุตสาหกรรมโรงแรมในประเทศไทย มีการขยายตัวอย่างต่อเนื่อง จากกำลังซื้อภาคการบริโภคภายในประเทศรวมถึงนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เพิ่มขึ้น ส่งผลให้รายได้ในส่วน Trading สามารถขายอุปกรณ์กรองน้ำทั้งเครื่องใหม่พร้อมทั้งอุปกรณ์ให้กับลูกค้าเพิ่มขึ้นตามการขยายตัวของกลุ่มผู้บริโภคดังกล่าว และ 3.กลุ่มธุรกิจบริการทางการแพทย์ (B3) ซึ่งดำเนินการโดย KTMS และบริษัทย่อย (กลุ่มบริษัท KTMS) มีรายได้ 597.38 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 30.93% เนื่องจากการขยายสาขาของธุรกิจหน่วยไตเทียม รวมถึงการเพิ่มขึ้นของจำนวนผู้ป่วยที่เข้ารับบริการ

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (06 มี.ค. 68)

Tags: , , ,
Back to Top