
ดัชนีดาวโจนส์ฟิวเจอร์ดีดตัวขึ้นกว่า 200 จุดช่วงเช้าวันนี้ (5 มี.ค.) หลังจากโฮเวิร์ด ลุตนิก รัฐมนตรีกระทรวงพาณิชย์ของสหรัฐฯ ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวฟ็อกซ์นิวส์ว่า สหรัฐฯ อาจจะเจรจากับแคนาดาและเม็กซิโก เพื่อที่จะ “พบกันครึ่งทาง” ในการหาทางออกเกี่ยวกับมาตรการภาษีศุลกากร
ซีเอ็นบีซีรายงานว่า ดัชนีดาวโจนส์ฟิวเจอร์ปรับตัวขึ้น 273 จุด หรือ 0.6% ขณะที่ดัชนี S&P 500 ฟิวเจอร์ และดัชนี Nasdaq 100 ฟิวเจอร์ ปรับตัวขึ้น 0.7% และ 0.8% ตามลำดับ
ลุตนิกกล่าวว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ “อาจจะ” ประกาศข้อตกลงประนีประนอมเกี่ยวกับภาษีศุลกากรกับแคนาดาและเม็กซิโกในเร็ว ๆ นี้ โดยข้อตกลงที่อาจเกิดขึ้นนี้ น่าจะเกี่ยวข้องกับการปรับลดภาษีนำเข้าลงบางส่วน จากอัตราภาษีใหม่ที่ระดับ 25% ที่ปธน.ทรัมป์เรียกเก็บจากแคนาดาและเม็กซิโก
“ทั้งฝั่งเม็กซิกันและแคนาดาต่างก็โทรศัพท์คุยกับผมตลอดทั้งในวันนี้ เพื่อพยายามแสดงให้เห็นว่าพวกเขาจะดำเนินการทุกอย่างให้ดีขึ้น และปธน.ทรัมป์ก็กำลังรับฟัง เพราะคุณรู้ไหม ท่านเป็นคนที่ยุติธรรมและมีเหตุผลมาก ดังนั้นผมคิดว่าปธน.ทรัมป์จะหาทางออกร่วมกันกับแคนาดาและเม็กซิโก” เขากล่าว
“เราอาจจะประกาศเรื่องนี้ในวันพุธ” ลุตนิกกล่าว
ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดร่วงลงติดต่อกันเป็นวันที่สองในวันอังคาร ท่ามกลางความวิตกกังวลเกี่ยวกับผลกระทบของสงครามการค้า หลังจากปธน.ทรัมป์ประกาศเดินหน้าเรียกเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากแคนาดาและเม็กซิโกในอัตรา 25% และเรียกเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากจีนเพิ่มขึ้นเป็น 20% มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 4 มี.ค.
การที่สหรัฐฯ ประกาศเรียกเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากจีน แคนาดา และเม็กซิโก ส่งผลให้ประเทศคู่ค้าเหล่านี้ออกมาตรการตอบโต้ โดยแคนาดาประกาศเรียกเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากสหรัฐฯ ในอัตรา 25% มีผลตั้งแต่วันที่ 4 มี.ค. และจีนประกาศเรียกเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากสหรัฐฯ บางรายการเพิ่มอีก 10% – 15% โดยจะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 10 มี.ค. ส่วนเม็กซิโกยืนยันว่าจะใช้มาตรการภาษีตอบโต้สหรัฐฯ แต่ยังไม่เปิดเผยรายละเอียดในขณะนี้
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (05 มี.ค. 68)
Tags: ดาวโจนส์ฟิวเจอร์, ตลาดหุ้นนิวยอร์ก, เม็กซิโก, แคนาดา, โดนัลด์ ทรัมป์