ตลาดหุ้นยุโรปร่วงหนักสุดในรอบกว่า 6 เดือน หลังทรัมป์บังคับใช้ภาษีนำเข้า

ตลาดหุ้นยุโรปปิดปรับตัวลงจากระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในวันอังคาร (4 มี.ค.) โดยได้รับผลกระทบจากการเทขายหุ้นทั่วโลก หลังจากสหรัฐฯ บังคับใช้ภาษีนำเข้าสินค้าจากแคนาดา เม็กซิโก และจีน ทำให้นักลงทุนกังวลเกี่ยวกับการเติบโตของเศรษฐกิจโลก และความเป็นไปได้ที่ยุโรปจะถูกเก็บภาษีนำเข้าด้วยเช่นกัน

  • ทั้งนี้ ดัชนี STOXX 600 ปิดตลาดที่ระดับ 551.07 จุด ลดลง 12.06 จุด หรือ -2.14%
  • ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 8,047.92 จุด ลดลง 151.79 จุด หรือ -1.85%,
  • ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 22,326.81 จุด ลดลง 820.21 จุด หรือ -3.54% และ
  • ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 8,759.00 จุด ลดลง 112.31 จุด หรือ -1.27%

ดัชนี STOXX 600 ปิดร่วงลงรายวันรุนแรงที่สุดนับตั้งแต่เดือนส.ค. 2567 ขณะที่ตลาดหุ้นในทุกประเทศยุโรปปิดแดนลบ

มาตรการภาษีดังกล่าวมีผลบังคับใช้ตั้งแต่ช่วงเช้าวันอังคาร สร้างความผิดหวังให้กับตลาดที่หวังว่าจะมีการเจรจาเพิ่มเติมเพื่อลดผลกระทบ

กลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ได้รับผลกระทบหนักที่สุด โดยหุ้น Stellantis ร่วง 10.2%, หุ้น BMW ร่วง 5.9% และ หุ้น Ferrari ร่วง 4.4% ส่งผลให้ดัชนีหุ้นกลุ่มยานยนต์และชิ้นส่วนรถยนต์ ร่วงลง 5.4% ซึ่งเป็นการลดลงรายวันรุนแรงที่สุดนับตั้งแต่เดือนมี.ค. 2565

ดัชนีกลุ่มบริการทางการเงิน และกลุ่มธนาคาร ร่วงลง 3.7% และ 3.8% ตามลำดับ ขณะที่ราคาน้ำมันที่ลดลงกดดันให้หุ้นพลังงาน ร่วงลง 4.2%

บรรดานักลงทุนยังกังวลว่า สหภาพยุโรปอาจเป็นเป้าหมายถัดไป หลังจากทรัมป์เพิ่งเสนอให้เก็บภาษี 25% สำหรับรถยนต์และสินค้านำเข้าจากยุโรปเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว

ดัชนีความผันผวนของ Euro STOXX พุ่งขึ้นแตะระดับ 22.90 จุด ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนส.ค. 2567

จีนซึ่งถูกเก็บภาษีเพิ่มอีก 10% จากเดิมที่มีอยู่แล้ว 10% ได้ตอบโต้ด้วยการขึ้นภาษี 10%-15% สำหรับสินค้าบางรายการ ส่งผลให้หุ้นกลุ่มสินค้าหรูที่พึ่งพาตลาดจีนปรับตัวลง โดยหุ้น Hermes, Kering และ LVMH ร่วงลงระหว่าง 2%-4%

หุ้นกลุ่มอุตสาหกรรมการบินและกลาโหมที่เคยพุ่งขึ้นทำสถิติสูงสุดจากแนวโน้มการใช้จ่ายทางทหารที่เพิ่มขึ้นนั้น ปรับตัวลง 1.5%

หุ้นในดัชนี STOXX 600 ส่วนใหญ่ปิดแดนลบ ยกเว้น กลุ่มสาธารณูปโภค ซึ่งขยับขึ้นเล็กน้อย และกลุ่มอาหารและเครื่องดื่มที่ปรับตัวขึ้น 1.2%

หุ้น Lindt & Spruengli ของสวิตเซอร์แลนด์ พุ่งขึ้น 8.2% หลังจากรายงานผลกำไรจากการดำเนินงานประจำปีที่ดีกว่าคาดเล็กน้อย

นอกเหนือจากประเด็นภาษี ทรัมป์ยังประกาศหยุดความช่วยเหลือทางทหารแก่ยูเครน ทำให้ยุโรปอาจต้องเพิ่มงบประมาณด้านกลาโหมของตนเอง

หุ้น abrdn ของอังกฤษ และหุ้น Thales ของฝรั่งเศส พุ่งขึ้น 7.7% และ 2.5% ตามลำดับ หลังจากรายงานผลประกอบการที่ดีกว่าคาดในปี 2567

ขณะที่หุ้น Continental AG ร่วง 11.64% หนักที่สุดในดัชนี STOXX 600 หลังจากคาดการณ์แนวโน้มธุรกิจยานยนต์ที่ซบเซาสำหรับปี 2568

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (05 มี.ค. 68)

Tags: ,
Back to Top