WealthMePlease: หุ้นเทคจีนแร๊งงง!! สัญญาณบวกมาเต็ม แต่ยังเสี่ยง”ทรัมป์”ป่วน

นับตั้งแต่ต้นปี 68 หุ้นจีนปรับขึ้นมาอย่างโดดเด่น หลังจากซบเซามานาน โดยเฉพาะหุ้น H-Share ในตลาดฮ่องกงเด้งขึ้นมาถึง 20% ส่วนหุ้น A-Share ตลาดหุ้นจีนก็ดีดขึ้นไปราว 1%

เหตุใดหุ้นจีน โดยเฉพาะกลุ่มเทคถึงกลับมา เรามาวิเคราะห์ไปพร้อมกับนายบดินทร์ พุทธอินทร์ Head of Investment Strategy บลจ.อีสท์สปริง มองปัจจัยที่ทำให้หุ้นจีนปรับตัวขึ้นมา ดังนี้

  • ท่าทีของนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐตอนแรกเหมือนจะเล่นจีนแรง แต่เอาเข้าจริงกลับอ่อนลง ไม่ได้เป็นอย่างที่เคยขู่ไว้ แต่สหรัฐจะกลับมากดดันเล่นงานจีนเพิ่มอีกหรือไม่?
  • Deep Seek สตาร์อัพสัญชาติจีนที่ออกมาเขย่าวงการ AI ทำให้กลุ่มเทค กลุ่ม E-Commerce จีนมีต้นทุนต่ำลง มองว่าจะเป็นอีกจุดหนึ่งที่ดันหุ้นเทคจีนขึ้นแรง
  • รอลุ้นมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของจีน หลังการประชุมสภาที่ปรึกษาทางการเมืองแห่งประชาชนจีน (CPPCC) ในวันที่ 4 มี.ค. และการประชุมสภาประชาชนแห่งชาติจีน (NPC) ในวันที่ 5 มี.ค.

นายบดินทร์ ยังกล่าวว่า การที่ นายสี จิ้นผิง ประธานาธิบดีจีน พบปะกับผู้บริหารบริษัทเทคโนโลยีชั้นนำของจีนส่งสัญญาณเชิงบวก เป็นผลดีต่อกลุ่มเทคจีน จากที่ก่อนหน้านี้เคยเข้ามาจัดระเบียบกลุ่มบริษัทเทคฯ

ในระยะสั้น หุ้นฝั่ง H-Share น่าสนใจแม้ยังมีความเสี่ยง เพราะราคาหุ้นปรับขึ้นเร็วและแรง อาจจะต้องระมัดระวังการลงทุน รวมทั้งสหรัฐจะกลับมากดดันจีนเมื่อไร และความน่ากังวล Tech War หากสหรัฐมองว่าเทคโนโลยีจีนสั่นคลอนความมั่นคงและความปลอดภัยทางไซเบอร์ของสหรัฐ ซึ่งล่าสุดสหรัฐได้ออกมาตรการจำกัดการส่งออกชิปไปที่จีนไปแล้ว

“ช่วงนี้ตลาดหุ้นจีนยังเป็นขาขึ้น และมีโมเมมตัมเชิงบวกค่อนข้างเยอะ แต่เมื่อไรที่หุ้นจีนเริ่มย่อ จากจุดสูงสุดลงมา 5-7%.ใช้จังหวะนี้เป็นสัญญาณที่เราต้องเริ่ม Switch out ออกได้แล้ว” นายบดินทร์ กล่าว

ส่วนใครที่ยังไม่มี แนะให้ลงทุน 5-10% ของพอร์ต และเล่นเป็นรอบ กำไร 5-7% ก็ออก

ความแตกต่างระหว่างหุ้น H-Share กับ A-Share คือ H-Share มีหุ้นหลัก 3 กลุ่ม คือ กลุ่มสินค้าฟุ่มเฟือย กลุ่ม Communication Service หรือ E-Commerce และกลุ่ม Tech ขณะที่ A-Share มีกลุ่มแบงก์และอสังหาฯอยู่มาก จึงฉุดตลาดไม่ไปไหนไกล ทำให้ภาพตลาดหุ้นจีนเป็นลักษณะ K shaped

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (04 มี.ค. 68)

Tags: , , , , , , ,
Back to Top