
นายกัณวีร์ สืบแสง สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเป็นธรรม นำจดหมายฉบับจริงของชาวอุยกูร์มาโชว์ต่อสื่อมวลชน หลังถูกล่าวหาว่าสร้างเฟคนิวส์จดหมายปลอม
จดหมายที่นำมาโชว์เป็นกระดาษฉีกที่มีรอยปั้มที่เป็นลายน้ำทั้ง 2 ด้านที่ติดกับกระดาษฉบับนี้ ซึ่งสามารถหาได้ในกรมราชทัณฑ์และผู้ต้องขังสามารถซื้อได้แผ่นละบาท ซึ่งเสียเงิน 1 บาทแต่สะเทือนทั้งโลก
นายกัณวีร์ ยืนยันว่า ไม่เคยพูดว่า จดหมายฉบับนี้ออกมาจากกรมราชทัณฑ์อย่างถูกต้องตามกฏระเบียบ แต่ตนได้จดหมายฉบับนี้จากผู้ต้องกักขังที่อยู่ในสน.สวนพูล
“จดหมายฉบับนี้เป็นการเขียนของชาวอุยกูร์ที่ถูกกักขังอยู่ในห้องกักและถูกผลักดันกลับเรียบร้อยแล้ว และจดหมายฉบับนี้ดูในรายละเอียดเขียนไปถึงนายกรัฐมนตรีว่า พวกเขาถูกแยกกับครอบครัวมาเป็น 10 กว่าปีแล้ว เขาอยากให้ลองคิดดูว่า เป็นท่าน ท่านจะรู้สึกอย่างไร และเขียนไปถึงนายกฯว่า ท่านพึ่งได้รับกลับมารวมครอบครัวกับบิดาของท่าน เป็นสิ่งที่เขาสะท้อนให้เห็นความเป็นมนุษย์คนหนึ่ง”นายกัณวีร์ กล่าว
นายกัณวีร์ ไม่อยากให้หลงประเด็นในการผลักดันชาวอุยกูร์กลับประเทศจีน ซึ่งมีเรื่องใหญ่กว่าจดหมายจริงหรือจดหมายปลอม เพราะสิ่งที่จำเป็นจริง ๆ คือ คำตอบจากรัฐบาลไทยว่า การผลักดันชาวอุยกูร์ครั้งนี้เกิดจากความสมัครใจหรือไม่ และไม่มีประเทศที่ 3 ต้องการรับตัวชาวอุยกูร์เหล่านี้เลยหรือไม่ ซึ่งยังไม่มีคำตอบและหากมีหลักฐานว่า ชาวอุยกูร์เหล่านี้สมัครใจจริงๆให้ออกมาโชว์
รัฐบาลโต้ฝ่ายค้านใช้ข้อมูลเท็จ
นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า อยากให้นายกัณวีร์ หยุดเคลื่อนไหวในเรื่องนี้ เพราะยิ่งออกมาพูดหรือแสดงหลักฐานที่ไม่ถูกต้องจะทำให้สังคมเกิดความสับสน ซึ่งไม่เกิดประโยชน์ใด ๆ ต่อประเทศชาติเลย โดยเฉพาะเรื่องของจดหมายของชาวอุยกูร์ที่กรมราชทัณฑ์ออกมายืนยันอย่างชัดเจนแล้วว่าเป็น ของปลอม ไม่ได้ออกมาจากเรือนจำกลางคลองเปรม
กรณีที่นายกัณวีร์ ระบุว่าจดหมายดังกล่าวเขียนถึงนายกรัฐมนตรี ลงวันที่ตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนปีที่แล้ว เหตุใดจึงนำไปเก็บไว้โดยไม่ส่งมอบให้กับรัฐบาล หรือหากมีเจตนาดีก็สามารถเผยแพร่ในโซเชียลมีเดียได้ตั้งแต่ปลายปีที่แล้ว ซึ่งหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้องจะได้รับรู้ข้อมูลและนำไปติดตามตรวจสอบเพื่อให้เกิดความเป็นธรรมมากยิ่งขึ้น แต่กลับปล่อยล่วงเลยมาจนถึงเดือนมีนาคมปีนี้
โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า สังคมเกิดข้อสงสัยอย่างมากว่าไปเอาออกมาจากห้องกักของ ตม.ได้อย่างไร และไปรับจากใคร หรือใครให้มา มีเจตนาอะไร ซึ่งประเด็นนี้หากตอบสังคมได้ก็จะเกิดความกระจ่างมากยิ่งขึ้น ที่ผ่านมารัฐบาลย้ำหลายครั้งว่าสถานการณ์ 15 ปีที่แล้วที่มณฑลซินเจียงกับปัจจุบันไม่เหมือนกัน โลกเปลี่ยนแปลงไปมาก มีการเติบโตด้านเศรษฐกิจ และหลายรัฐบาลไทยก็ดำเนินการประสานงานอยู่ตลอดเวลาก็ไม่เห็นมีประเทศไหนให้การตอบรับตัวชาวอุยกูร์กลุ่มนี้ไปประเทศที่ 3
“วันนี้หน่วยราชการยืนยันว่าปลอม มีแต่นายกัณวีร์ คนเดียวที่ยืนยันว่าเป็นจดหมายจริง ผมเห็นว่าควรจะยุติเรื่องที่ออกมาพูดได้แล้ว และรอการที่รัฐบาลจะส่งรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องเดินทางไปติดตามภายในเดือนนี้ เพื่อให้เห็นถึงความจริงใจในการแก้ไขปัญหาร่วมกันระหว่างสองประเทศจะดีกว่า ยิ่งนำเสนอมากเท่าไหร่ก็ยิ่งสร้างความสับสน และไม่เห็นเป็นประโยชน์ต่อประเทศไทยแต่อย่างใดเลย เพราะรัฐบาลไทยได้ปฏิบัติตามสนธิสัญญาต่าง ๆ รวมทั้งเรื่องของสิทธิมนุษยชนอย่างชัดเจนแล้ว” นายจิรายุ กล่าว
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (04 มี.ค. 68)
Tags: กัณวีร์ สืบแสง, จิรายุ ห่วงทรัพย์, ชาวอุยกูร์, ฝ่ายค้าน, พรรคเป็นธรรม